'ดุสิตธานี' ทำรายได้ Q1/66 1.7 พันล้าน เพิ่ม 52% ท่องเที่ยวดันกำไรฟื้น 8 ล้าน

'ดุสิตธานี' ทำรายได้ Q1/66 1.7 พันล้าน เพิ่ม 52% ท่องเที่ยวดันกำไรฟื้น 8 ล้าน

‘ดุสิตธานี’ เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2566 ทำรายได้รวม 1,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.1% ทำกำไรสุทธิ 8 ล้านบาท รับปัจจัยหนุนท่องเที่ยวฟื้น ดันรายได้ธุรกิจโรงแรมรายไตรมาสสูงสุดรอบ 3 ปี ขณะที่ธุรกิจอาหารเติบโต 116.2%

“กลุ่มดุสิตธานี” เผยผลงานไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ของปี 2566 บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 588 ล้านบาท หรือ 52.1% จาก 1,129 ล้านบาท โดยธุรกิจโรงแรมบันทึกรายได้รายไตรมาสสูงที่สุดในรอบ 3 ปี จากสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจอาหารเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรจากการประกอบธุรกิจหลัก 11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2565 ซึ่งขาดทุน 126 ล้านบาท

รายงานข่าวจาก DUSIT เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 8.63 ล้านบาท โดยเป็นกำไรจากการประกอบธุรกิจหลัก 11 ล้านบาท เติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับที่เคยขาดทุน 126 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2565 ที่ขาดทุน 107 ล้านบาท (QoQ) ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโรงแรม ทั้งจากการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และผลสำเร็จในการปรับเพิ่มอัตราค่าห้องเฉลี่ย ทำให้บริษัทฯ มีรายได้ต่อห้องรายไตรมาสสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากการธุรกิจโรงแรมรายไตรมาสสูงสุดในรอบ 3 ปี โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ รายได้จากธุรกิจโรงแรมของกลุ่มดุสิตธานีเพิ่มขึ้นจาก 634 ล้านบาทในปีก่อน เป็น 1,192 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 88%

ขณะที่ธุรกิจอาหารเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งจากธุรกิจการให้บริการจัดการอาหารให้กับโรงเรียนนานาชาติ และธุรกิจผลิตเบเกอรี่และแฟรนไชส์ร้านขนมอบ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในช่วงกลางปี 2565 ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ด้านการขยายการเติบโตและการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้นจาก 142 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2565 เพิ่มเป็น 307 ล้านบาทในปีนี้ คิดเป็นเพิ่มขึ้น 165 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 116.2% และทำให้ในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จากการประกอบธุรกิจหลัก 356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 44.4% จากไตรมาสก่อนหน้า

“กลุ่มดุสิตธานี ยังมั่นใจว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้รายได้จากธุรกิจโรงแรมยังคงเติบโตได้ต่อไป เช่นเดียวกับธุรกิจอาหารที่ยังเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ และเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของบริษัทฯ ได้ในอนาคต”