ร้านอาหาร-ฟาสต์ฟู้ด-เครื่องดื่มระอุ! ผู้ท้าชิงใหม่-เก่า รับกำลังซื้อฟื้น

อย่าง ฟู้ดแพชชั่น ส่ง “GON Express” บุกร้านอินทนิล ส่งโมเดล shop in shop ขยายฐานลูกค้าไลฟ์สไตล์ในเมือง ที่ต้องการมื้อด่วนอาหารและเครื่องดื่ม

สิริภา ลาภะนาวิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กล่าวว่า พฤติกรรมลูกค้าชอบความสะดวก รวดเร็ว มักซื้ออาหารไปทานพร้อมเครื่องดื่ม จึงมองเห็นโอกาสที่จะช่วยลดระยะเวลา เน้นความสะดวกของลูกค้าเป็นหลัก พร้อมมองหาพันธมิตรใหม่ๆ ซึ่ง “อินทนิล” ตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี 

 

GON Express ในคอนเซปต์ “จัดไว ไปต่อ ไม่ต้องปิ้ง” ได้นำเมนูขายดีอย่าง GON X.Box ข้าวญี่ปุ่นหมูสไลซ์ซอสต้นตำรับ มาจับคู่กับเครื่องดื่มขายดีของอินทนิล อย่างอเมริกาโน่เย็น, เอสเพรซโซ่เย็น, โกโก้เย็น, ชาไทยลาเต้เย็น และชาเขียวลาเต้เย็น ในชื่อเซ็ต Happy Duo เพื่อให้ลูกค้าได้ complete meal ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม เริ่ม 6 สาขาของอินทนิล ได้แก่ Summer point, สถานีบริการน้ำมันบางจาก อุดมสุข45, ตึกการทางพิเศษแห่งประเทศไทย, ศูนย์วิทยทรัพยากร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, B-quickรามคำแหง และ โรงแรมมาร์ซี่ สุขุมวิท101/1 จนถึง 15 ส.ค. คาดขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 60%

บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) ฉายภาพรวมตลาดร้านอาหารในประเทศไทย หลังโควิดคลี่คลายในปี 2565 มูลค่ากลับมายืนแกร่งระดับ 4.1 แสนล้านบาท โดยตลาดใหญ่สุดกลุ่มร้านเครื่องดื่ม คาเฟ่ มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ตามด้วยร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ยังฮิตติดลมบน มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท ร้านอาหารบริการด่วน ประเภทไก่ทอด 2.5 หมื่นล้านบาท หม้อร้อนหรือฮอตพอท 2 หมื่นล้านบาท

ส้มตำ 1.6 หมื่นล้านบาท เบอร์เกอร์ 1 หมื่นล้านบาท เบเกอรี่ 1 หมื่นล้านบาท พิซซ่า 8,500 ล้านบาท ปิ้งย่าง 8,000 ล้านบาท ไอศกรีม 7,500 ล้านบาท อาหารตะวันตก 7,500 ล้านบาท อาหารเพื่อสุขภาพและสลัด 5,000 ล้านบาท โดนัท 4,100 ล้านบาท อาหารจีน 3,000 ล้านบาท และอาหารเกาหลีมูลค่า 3,000 ล้านบาท

ปิยะพงศ์ จิตต์จำนงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส QSR & Western Cuisine  ซีอาร์จี กล่าวว่า ตลาดร้านอาหารบริการด่วนปี 2566 คาดเติบโต 2 หลัก ซึ่งไตรมาสแรกสัญญาณการฟื้นตัวดี จากผู้บริโภคชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามากระตุ้นตลาด เพิ่มการบริโภค 

กลุ่มเติบโตสูง ยังยกให้หมวดไก่ทอด ที่มีเครือข่ายเข้าถึงลูกค้าครอบคลุม เฉพาะแบรนด์เคเอฟซีของซีอาร์จี มีมากกว่า 319 สาขา ซึ่งปีนี้จะเปิดร้านใหม่ 25-30 สาขา ปรับปรุงสาขาเดิม 25-30 สาขา พร้อมส่งมอบประสบการณ์ใหม่ด้วยโมเดลร้านรูปแบบใหม่ การนำดิจิทัลเข้ามาให้บริการรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ 

“ตลาดไก่ทอดเป็นแคธิกอรีใหญ่สุด เติบโตต่อเนื่อง เพราะไก่ทอดเข้าถึงคนไทยง่าย ไก่ทอดทานคู่กับเมนูอื่นง่าย เทียบฟาสต์ฟู้ดอื่นที่ใช้แป้งพื้นฐานประกอบอาหาร”

นอกจากตลาดไก่ทอด 2.5 หมื่นล้านบาทเติบโต เซ็กเมนต์เบอร์เกอร์กำลังระอุ เมื่อน้องใหม่ “เชค แช็ค” (Shake Shack) เบอร์เกอร์สไตล์อเมริกัน เปิดบริการเมื่อ 30 มี.ค. ชิงเค้กหมื่นล้านบาทในไทย แน่นอนว่า ผู้บริโภคชาวไทยไม่ยอมตกขบวน (FOMO) เข้าคิวรอชิมความอร่อยจำนวนมาก

ปิยะพงศ์ มองว่า การที่มีแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาด ถือว่าเติมสีสันและสะท้อนศักยภาพตลาดมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง ส่วนแบรนด์ใดจะเก็บเกี่ยวขุมทรัพย์ได้มากกว่ากันขึ้นอยู่กับความมีเอกลักษณ์ การนำเสนอจุดเด่นของสินค้าแต่ละแบรนด์ เพื่อครองใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ที่ต้องจับตา คือ หลังคิกออฟร้านแรก ผู้ท้าชิงจะมีการขยายร้านใหม่ สร้างแรงกระเพื่อมให้ตลาดใหญ่ได้มากน้อยแค่ไหน

ด้าน กิตติวรรณ อนุเวชสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารร้านแมคโดนัลด์ กล่าวว่า ปีนี้แมคโดนัลด์เปิดร้านใหม่ 10-15 สาขา ปรับร้านเดิมให้เป็นโฉมใหม่ ภายใต้งบลงทุน 300 ล้านบาท และอีกหมากรบคือการสื่อสารเชิงรุกกับเมนูไก่ทอดสูตรใหม่ ด้วยความโดดเด่น การันตีความอร่อยจากเอไอ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากไก่ทอดให้เป็น 25-30% จาก 17% เสริมแกร่งพอร์ตโฟลิโอ 

พร้อมกลยุทธ์เซ็ตเมนูอาหารคุ้มค่า 99 บาท กระตุ้นความถี่ในการเข้าร้าน บริโภคเบอร์เกอร์ จากเดิมเซ็ตเมนูราคา129-159 บาท

“แมคโดนัลด์เป็นเบอร์ 1 ในตลาดเบอร์เกอร์มีแชร์ 55-60% การเติมพอร์ตแมคไก่ทอด เพราะไก่ทอดเป็นตลาดใหญ่มหาศาลที่จะช่วยสร้างการเติบโตได้อีก”

ปี 2566 แมคโดนัลด์คาดยอดขายเติบโต 20% มีลูกค้าใช้บริการ 40 ล้านคน สู่ปี 2568 หวังเสิร์ฟลูกค้า 60 ล้านคน

ฉีกกลยุทธ์ผนึกพันธมิตร  แตกไลน์แฟชั่นเจาะไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค 

การปล่อยอาวุธการตลาดเวลานี้ไม่จำกัดอยู่แค่กลุ่มเดิมๆ และกลยุทธ์ความร่วมมือ หรือ Collaboration มีความสำคัญมากขึ้น เพื่อดึงจุดแข็งแต่ละฝ่ายต่อยอดซึ่งกันและกัน ไฮซีซันนี้จึงได้เห็นบิ๊กแบรนด์หลายรายผนึกกำลังสร้างสีสัน เริ่มที่กลุ่มเครื่องดื่ม

ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Chief Marketing Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ฉายภาพ แบรนด์ลีโอ ลุยกลยุทธ์ Collaboration ครั้งแรกกับร้านมัลติแบรนด์ดังระดับโลก “แอทมอส” ทำแคมเปญ “LEO x atmos Collection” โดยดึงเอกลักษณ์ ทั้ง 2 แบรนด์มาสร้างความคึกคักให้ตลาด ในคอนเซปต์ “THE STREET FUN INSPRIRER” มีการนำไอคอนิกของแบรนด์ลีโออย่างลวดลายเสือดาว ผสานกับความเอ็กซ์คลูสีฟของ atmos มาดีไซน์คอลเลคชั่นพิเศษถ่ายทอดลงบนแฟชั่นสตรีทแวร์ รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น 10 รายการ เช่น เสื้อยืด ฮู้ดดี้ กางเกงคาร์โก้

แอทมอส เป็นร้านมัลติแบรนด์ดังที่มีกว่า 30 สาขาในญี่ปุ่น และหลายประเทศ เช่น นิวยอร์ก สหรัฐ, โซล เกาหลีใต้ และกรุงเทพฯ สาขาที่ 4 ของโลก เน้นจำหน่ายสินค้าแฟชั่น “เอ็กซ์คลูซีฟ”

“การผสานพลังของ 2 แบรนด์ครั้งนี้นำไปสู่การดีไซน์เสื้อผ้าแฟชั่นสตรีทแวร์ที่เอ็กซ์คลูสีฟ เอาใจสาวกทั้งสายเครื่องดื่มและสายแฟชั่น ย้ำภาพผู้นำของ ลีโอ สร้างสีสันให้ตลาดเบียร์แสนล้านและแฟชั่น"

ด้านแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาวแดง” คอลแล็บกับ “ห่านคู่” ออกคอลเล็กชั่น Carabao x Double Goose Made in Thailand  เป็นครั้งแรกที่ 2 แบรนด์ต่างสายพันธุ์มาเจอกัน

 หากมองฐานลูกค้าของทั้ง 2 แบรนด์มีความเหมือนและแตกต่างกัน ความเหมือน คือ กลุ่มลูกค้าทั่วไปหรือ Mass รู้จักและใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ส่วนความต่างของหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ ทำให้ได้ฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ

ฝั่งอาหารแบรนด์ "บาร์บีคิวพลาซ่า” นอกจากมีดีที่ “น้ำจิ้ม” สูตรลับเฉพาะแล้ว ยังมีมาสคอต “บาร์บีก้อน” นำไปต่อยอดการตลาดและ “ทำเงิน” มากกว่าแค่โตในธุรกิจร้านอาหาร ล่าสุด ลุยโปรเจกต์ “Bar B Q Plaza x CARNIVAL” เปิดคอลเลกชั่น Born To Grill ที่นำ 2 คาแรกเตอร์ตัวแทนแบรนด์ปิ้งย่าง “บาร์บีก้อน” มังกรเขียวขวัญใจมหาชน และ “Bernie” เจ้าหมีสุดแสบ ผสมผสานแนวคิดมุมมองความรู้สึกของผู้คนในยุค 90’ ที่เริ่มรู้จักแบรนด์ให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง มีการออกเสื้อผ้าคอลเลกชั่นพิเศษอีกด้วย

ขณะที่ไก่ทอดเบอร์ 1 ของโลกอย่าง “เคเอฟซี” ควง TIKKYWOW ศิลปินสตรีทอาร์ตชื่อดังของเมืองไทย ออกคอลเลกชั่นเสื้อผ้าสตรีทแวร์ ลิมิเต็ด เอดิชั่น เรียกว่า นำแบรนด์เข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากกว่าการกินดื่มอาหารและเครื่องดื่ม