‘กูรู’ แนะการตลาดโหนกระแส ถ้าแบรนด์ไม่ไหวอย่าฝืน!

‘กูรู’ แนะการตลาดโหนกระแส ถ้าแบรนด์ไม่ไหวอย่าฝืน!

"อีกี้" ธาตุทองซาวด์เต็มฟีดบนโลกออนไลน์ กลายเป็นหนึ่งในกระแส เป็นโอกาสให้แบรนด์ทำการตลาดเรียลไทม์โกยเอนเกจเมนต์ แต่บางครั้งแบรนด์ "ช้า" อาจตกขบวน หรือบางโมเมนต์ไม่เข้าพวก แต่กลับฝืนโดดเกาะ แล้วโหนเทรนด์อย่างไรไม่ให้เด๋อหรือฝืน ดิจิทาซ มีคำแนะนำ

“เทรนด์” มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เร็วช้าขึ้นกับบริบทธุรกิจ การแข่งขัน พฤติกรรมผู้บริโภค และกลายเป็นสิ่งที่นักการตลาดต้องเกาะติดตลอด เพื่อให้สามารถวางแผนกลยุทธ์การทำตลาดให้แบรนด์สินค้าและบริการ

งาน Power of ONE, Powering the Future จัดโดยเอเยนซี่ด้านการสื่อสารชั้นนำ “ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย” มีหลายเทรนด์มาอัพเดท หนึ่งในนั้นคือ คอนเทนท์บนสื่อสังคมออนไลน์และการใช้ผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดติดอาวุธให้แบรนด์ หรือ Social Content & Influencer โดยมี สมิหรา ทันต์เจริญกิจ กรรมการผู้จัดการ และ มินญ์ฑารา บัวทอง ซีเนียร์ สตราทิจิกแพลนเนอร์ ดิจิทาซ ประเทศไทย เล่า 4 เทรนด์ ดังนี้

1.ไม่ต้องฟอลโลว์ เดี๋ยวคอนเทนท์โชว์เอง ย้อนยุคเริ่มโซเชียลมีเดีย เป็นพื้นที่ผู้คนติดต่อกันและผู้ใช้งานตามหาเพื่อน สิ่งที่ชอบสนใจด้วยตัวเอง แต่ปัจจุบันอัลกอริธึ่มแพลตฟอร์มพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดการสลับขั้ว แพลตฟอร์ม “แนะนำ” ให้ผู้บริโภครับชม หรือเสพสิ่งที่ชอบ โดยไม่ต้องตามหา เทรนด์ดังกล่าวยังกลายเป็นปรากฏการณ์ขยายวงกว้างถึงสื่อดั้งเดิม อย่างรายการข่าวทางทีวี ล้วนนำเสนอคอนเทนท์จากโซเชียลมีเดียอย่างมากเว้น “การเมือง” ที่ช่วงนี้มาจากการลงพื้นที่ทำข่าว

ดังนั้น นักการตลาดควรหาความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่แบรนด์ต้องการสื่อสารกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายให้ได้ หรือการสร้างคอนเทนท์ ไม่ใช่แค่ตั้งโจทย์ว่าผลิตวิดีโอลงบนแพลตฟอร์ม เช่น TikTok แต่ควรใช้วิดีโอนั้นๆให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในแพลตฟอร์มอื่นๆได้ด้วย หรือนำเสนอข้ามแพลตฟอร์มเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า

‘กูรู’ แนะการตลาดโหนกระแส ถ้าแบรนด์ไม่ไหวอย่าฝืน!

“วันนี้เกมเปลี่ยน เพจต่างๆมาโชว์ Suggest ให้เราเห็นเอง หากหากนักการตลาดเข้าใจ Reccommendation Media คอนเทนท์ของแบรนด์ที่ถูกจริตผู้บริโภค มีโอกาสแสดงแสดงผลให้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการมากขึ้นยิ่ง ผลลัพฑ์คือสามารถโกย Organic reach มากขึ้น”

2.โหนอย่างไรไม่ให้เด๋อ เมื่อเทรนด์เป็นสิ่งที่คาดไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะ “เรียลไทม์” ประเด็นที่มาปุบปับ ซึ่งแบรนด์ต้องการ “โหน” หรือเกาะกระแสให้ทัน ไม่งั้นอาจตกขบวน

ทว่า ก่อนโหนกระแสทำการตลาดเรียลไทม์ ต้องรู้ “วัฏจักร” หรือวงจรของเทรนด์ก่อน ซึ่งแบ่งออกเป็น ระยะตกใจ ระยะวิเคราะห์ ตีความจนขยายสู่ดราม่า และระยะขยายวงกว้างหรือ Mass กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าพูดกันทั่วบ้านทั่วเมือง สำหรับเทรนด์ เรียลไทม์ จะมี 2 แบบ ได้แก่ กระแสมุกตลก รูปภาพขำขันต่างหรือ Meme ซึ่งจะอยู่ไม่นาน อาจ 3 วัน และเพลง วลีฮิตต่างๆ อยู่ได้เป็นเดือน อาจ 60 วัน เป็นต้น

‘กูรู’ แนะการตลาดโหนกระแส ถ้าแบรนด์ไม่ไหวอย่าฝืน! ศาสตร์การทำตลาดเรียลไทม์ไม่ให้เด๋อ แบรนด์ควรหาความเชื่อมโยงการโหน หามุมที่จะได้ประโยชน์ แน่นอนว่าถ้าไม่ไหวอย่าฝืน เพราะอาจได้เอนเกจเชิงลบ ดังนั้นการเข้าใจธรรมชาติของลูกเพจแบรนด์ ผู้ติดตามว่าเป็นคนแบบไหนสำคัญ เช่น รู้เท่าทันดิจิทัล หรือแค่เป็นผู้ตามกระแส จะทำให้นำไปต่อยอดกลยุทธ์ได้โดนใจ

3.ตีฟู อินฟลูให้งานฟูล ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันการสื่อสาร ทำตลาดโดยใช้คนดังบนโลกออนไลน์ ทรงพลังทางความคิดหรืออินฟลูเอนเซอร์ มีบทบาทมากขึ้น ยิ่งตัวท็อป หรือเมกะอินฟลูเอนเซอร์คนไทยที่ดัง หากแบรนด์หยิบมาช่วย จะทำให้แคมเปญปังขึ้นได้ ทว่ายุคนี้ใช้ตัวใหญ่ คนตามหลักแสนถึงล้าน ไม่พอ เพราะการเสพคอนเทนท์ของผู้บริโภคปลี่ยน จึงควรสื่อสารเพื่อตอบโจทย์ความสนใจระดับยิบย่อยหรือ “ไมโคร” คอนเทนท์ที่มีรายละเอียดลงลึกและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น สะท้อนการรู้ลึก รู้จริง ซึ่งบรรดา “ไมโคร อินฟลูเอนเซอร์” เป็นตัวช่วยเสริมได้

‘กูรู’ แนะการตลาดโหนกระแส ถ้าแบรนด์ไม่ไหวอย่าฝืน! “ไมโคร ไม่แค่สร้างคอนเทนท์รีวิว แต่กระตุ้นการมีส่วนร่วมให้กลายเป็นวัฒนธรรมย่อย พาคนสนใจเฉพาะมาอยู่รวมกันเป็นคอมมูนิตี้ แต่แบรนด์หาคนเหล่านี้เจอไหม”

เทรนด์ที่ 4 คอนเทนท์จิตสัมผัส (มากกว่าตาดู หูฟัง) การทำคอนเทนท์ยุคนี้ต้องตอบสนองผู้บริโภคมากกว่าแค่ “ตาดู หูฟัง” แต่ต้องเปิดจิตนาการของกลุ่มเป้าหมาย นำอินไซต์ปูทางสู่ภาพ หรือเสียงในหัว โดยใช้เทคนิคใหม่ๆเพิ่มประสาทสัมผัส มอบประสบการณ์ให้ลูกค้า เช่น อสังหาริมทรัพย์ จับตลาดคนซื้อบ้านด้วยสัมผัสของเสียงแห่งความสุข แพลตฟอร์มส่งอาหารเดลิเวอรี นำเสียง ASMR เพิ่มอรรถรสให้ร้านดัง กระตุ้นการสั่งซื้ออาหาร เป็นต้น