ส่องสถิติ 'พรรคการเมือง' เปย์งบ โปรโมท-หาเสียงเลือกตั้ง

การเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นกลางปี 2566 ทำให้พรรคการเมืองต่างๆ เดินเกม “หาเสียง” ประกาศนโยบายกันอย่างคึกคัก ความสร้างสรรค์ในสนามเกิดขึ้น แต่ความไม่สร้างสรรค์ “โจมตี” กันเอาความสนุก สะใจ ยังมีให้เห็น

ผู้นำคนเดิมอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรียาวนานกว่า 8 ปี ทำให้หลายคนต้องการเห็น “ความเปลี่ยนแปลง” เกิดขึ้น เมื่อมีคนคิดเช่นนี้ ย่อมมีคน “เห็นต่าง” สนับสนุนเช่นกัน

ระหว่างทางของการโปรโมทนโยบาย ลุยลงพื้นที่ หาเสียงของบรรดาผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้แทน หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ต้องมีการใช้ “งบโฆษณา” ชิงพื้นที่ผ่านสื่อต่างๆกันสุดฤทธิ์

อดีตสื่อหลักดั้งเดิม (Traditional Media) ครองใจผู้สมัคร พรรคการเมืองใช้หาเสียงมากสุด ได้แก่ ทีวี หนังสือพิมพ์ ฯ แต่เข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้สื่อทรงพลังเปลี่ยน โดยปี 2566 กลุ่มบริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์ จำกัดหรือเอ็มไอ(MI) ประเมินว่า แพลตฟอร์มออนไลน์ จะมีบทบาทอย่างมาก

ส่วนกระบวนท่าในการหาเสียง จะเน้นสร้าง “คอนเทนท์” ให้ปัง! โดนใจฐานเสียงคนรุ่นใหม่ รวมถึงผู้เลือกตั้งหน้าใหม่ (New Voter) ที่มีราว 3.9 ล้านราย เพื่อให้เกิดกระแสหรือ “ไวรัล” แล้วสื่อหลักดึงไปนำเสนอต่อ ได้พื้นที่สื่อฟรี(Earn Media)

ที่ผ่านมา ผู้สมัคร พรรคการเมืองใช้จ่ายงบโฆษณามากน้อยแค่ไหน เพื่อโปรโมท หาเสียง “เอ็มไอ” รวบรวมสถิติ ดังนี้

 

งบประมาณการโฆษณาการเลือกตั้ง 3 ครั้งล่าสุด

การเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2557 มูลค่ารวม 90.74 ล้านบาท

• พรรคชาติพัฒนา 16.81 ล้านบาท
• พรรคชาติไทยพัฒนา 6.68 ล้านบาท
• พรรคเพื่อไทย 6.68 ล้านบาท
• พรรคภูมิใจไทย 4.35 ล้านบาท
• พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 1.86 ล้านบาท
• พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1.39 ล้านบาท
• พรรคประชาธิปัตย์ 1 ล้านบาท
• อื่นๆ 71 พรรค 51.92 ล้านบาท

 

การเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2562 มูลค่ารวม 28.57 ล้านบาท

• พรรคชาติพัฒนา 13 ล้านบาท
• พรรคพลังประชารัฐ 3.44 ล้านบาท
• พรรคเพื่อไทย 2.67 ล้านบาท
• พรรคชาติไทยพัฒนา 2 ล้านบาท
• พรรคอนาคตใหม่ 1.78 ล้านบาท
• พรรคประชาธิปัตย์ 6.12 แสนบาท
• อื่นๆ 7 พรรค 3.47 ล้านบาท

 

การเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ปี 2565 มูลค่ารวม 31.23 ล้านบาท

• พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง มูลค่ากว่า 28.48 ล้านบาท
• สกลธี ภัททิยกุล มูลค่ากว่า 1.47 ล้านบาท
• สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ 1.07 ล้านบาท
• โฆสิต สุวินิจจิต 1.68 แสนบาท
• ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ 4.2 หมื่นบาท

 

นี่เป็นเพียงงบโฆษณาที่ลง “สื่อ” ต่างๆ เพราะในแง่ “เศรษฐกิจการเลือกตั้ง” เม็ดเงินสะพัดหลัก “หมื่นล้านบาท” เกิดจากการใช้เงินทำป้ายหาเสียง ติดทั่วประเทศ การลงพื้นที่ แต่ละครั้ง แต่ละพรรค จะ “ยกขบวน” กันไปไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าพรรค ที่ปรึกษาพรรค ทีมงาน ลูกน้อง บอดี้การ์ด สารพัด ล้วนมีค่าใช้จ่าย ที่พัก กิน จ้างงานนั่นเอง