กลยุทธ์ 'เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์' ขาย 'ป๊อปคอร์น' สู่หลัก "สิบล้านบาท" ต่อเดือน

กลยุทธ์ 'เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์' ขาย 'ป๊อปคอร์น' สู่หลัก "สิบล้านบาท" ต่อเดือน

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ฯ ผนึกพันธมิตร อัดแคมเปญส่งท้ายปีรัวๆ ปลุกตลาด ไม่แค่ดึงคอหนัง แต่เดินหน้าขายป๊อปคอร์นต่อเนื่อง พร้อมลุยฟื้นธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ รับสถานการณ์ผู้คนออกมาใช้ชีวิต เสพสื่อ ดูคอนเทนท์ความบันเทิงนอกบ้านมากขึ้น

นอกจากการเป็น “ผู้นำ” ตลาดอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ ที่ทั้งเดินหน้าขยายสาขา เปิดโรงหนังใหม่ๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย ตอบโจทย์ผู้บริโภคแล้ว ต้องยอมรับว่า “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป” เป็นค่ายหนังที่ออกอาวุธการตลาดตลอดทั้งปี เพื่อกระตุ้นแฟนๆให้ออกไปเสพความบันเทิง ดูหนังนอกบ้านอย่างต่อเนื่อง

เข้าโค้งสุดท้ายปี บริษัทยังคงปล่อยหมัดรัวๆ เพื่อทำการตลาด และไม่ลุยเพียงลำพัง ขอจับมือพันธมิตรหนึ่งในกลยทธ์สำคัญ สร้างการเติบโต

อย่างล่าสุด คือการจับมือ “RoV” เกมออนไลน์ยอดนิยมจาก การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) ออกคอลเลคชั่น RoV Bucket Set ซีซั่น 2 แจกฟรีการ์ดไอเทม เอาใจเหล่าเกมเมอร์นักสะสม ให้ซื้อเป็นของขวัญของฝากปีใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ ประสบผลสำเร็จกับ “ป๊อปคอร์น” ในถังซูเปอร์ไซซ์ ขนาด 355 ออนซ์ ลายพิเศษ ฉลอง 6 ปี“RoV 6th Anniversary Year Supersize มาแล้ว

​นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เล่าว่า การลุยคอลเลคชั่น RoV Bucket Set ซีซั่น 2 ลิขสิทธิ์แท้โรงหนัง เพื่อตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์ และคอหนัง ที่สามารถซื้อ Bucket Set ได้ที่โรงภาพยนตร์ทุกสาขา ยังมีบริการ “เดลิเวอรี่” ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆด้วย

ไฮไลต์ของโปรโมชั่น RoV Bucket Set เมื่อซื้อสินค้าป๊อปคอร์นเซ็ทดังกล่าวราคาชุดละ 420 บาท ที่โรงภาพยนตร์ และจุดจำหน่าย หรือสั่งเดลิเวอรี่ราคาชุดละ 520 บาท จะได้รับฟรีไอเทม การ์ด 1 ใบ

กลยุทธ์ \'เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์\' ขาย \'ป๊อปคอร์น\' สู่หลัก \"สิบล้านบาท\" ต่อเดือน กลยุทธ์ดังกล่าว เป็นหนึ่งในหมากรุกของเมเจอร์ฯ ที่จะผลักดัน “ป๊อปคอร์น” พระเอกใหม่ที่ “ทำเงิน” ให้บริษัทด้วย

ที่ผ่านมา โรงหนังเป็นธุรกิจหลักของ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” สร้างรายได้ต่อปีมหาศาล ทว่า ช่วงโควิด “วิชา พูลวรลักษณ์” แม่ทัพใหญ่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ฯ เล่าถึงการหา “รายได้พิเศษ” และหมากรบสำคัญคือ “ป๊อปคอร์น” ที่เจ้าตัวเอ่ยปากว่า

“ไม่เคยเชื่อเลยว่าจะสร้างการเติบโต กลายเป็นจิ๊กซอว์ทำเงินให้บริษัท รายได้ก่อนโควิดมีสัดส่วนราว 40% เท่านั้น แต่ล่าสุดทำเงินราว 70%”

ปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า บริษัทจะทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น ทั้งรีลอนซ์สินค้าใหม่เพื่อจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น และยังมีการออก “Bucket Set สวย” เพราะผู้บริโภคจำนวนมาก นอกจากชอบรสชาติป๊อปคอร์น ยังถูกใจกับเรื่องของดีไซน์ชุดสินค้าเชื่อมโยงหนัง จนซื้อสะสมด้วย

“สิ่งที่คิดว่าไม่น่าเชื่อ กลับเติบโตเหลือเชื่อ และอนาคตเราอยากทำรายได้ป๊อปคอร์นให้เท่ากับขายตั๋วหนัง”

กลยุทธ์ \'เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์\' ขาย \'ป๊อปคอร์น\' สู่หลัก \"สิบล้านบาท\" ต่อเดือน

เป้าหมายปี 2565 บริษัทจะผลักดันยอดขายป๊อปคอร์นให้แตะ 2,500 ล้านบาท ขณะที่ย้อนไปช่วงโควิดระบาด และการออกสตาร์ทขายป๊อปคอร์นผ่าน "เดลิเวอรี" ทำเงินหลัก "หมื่นบาท" เท่านั้น ปัจจุบันทะลุหลัก 20-30 ล้านบาทต่อเดือน 

ปลายปียังมีกิจกรรมอีกรัวๆ แต่ไม่ใช่แค่ขายตั๋วหนัง ป๊อปคอร์น สร้างรายได้ แต่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ฯ มีสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์อีกด้วย รวมถึงโบว์ลิ่ง คาราโอเกะ ไอซ์สเก็ต ร้านค้า ร้านอาหารตอกย้ำการเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์บันเทิงครบวงจร หรือเป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์

ล่าสุด เครื่องสำอาง KATHY COSMETICS ของ “กระแต อาร์สยาม” เลือกใช้สื่อโฆษณาในโรงหนังเพื่อสื่อสารการตลาดเจาะคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเครื่องสำอางดาราแบรนด์ไทยทุ่มงบจัดเต็มเพื่อให้ลูกค้าด้วย

กลยุทธ์ \'เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์\' ขาย \'ป๊อปคอร์น\' สู่หลัก \"สิบล้านบาท\" ต่อเดือน สำหรับการเลือกใช้สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ ประกอบด้วยกรุงเทพฯ 3 สาขา และต่างจังหวัดจำนวน 122 สาขา รวมถึงสื่อภายในอาคาร (Sync Screen) จำนวน 22 สาขา ทั้ง Digital Banner Digital Wall และ LED Screen สื่อโฆษณาบน ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ E-Ticket ในกรุงเทพฯ 30 สาขา และสื่อนอกอาคาร 4 สาขา

พร้อมกันนี้ ยังมีโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้าที่เห็นภาพยนตร์โฆษณา KATHY รับสิทธิ์พิเศษสุดคุ้ม ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2565 ถึง 31 มกราคม 2566 เช่น สแกน QR Code สั่งสินค้าในสื่อโฆษณา KATHY ที่ ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ E-Ticket รับสิทธิ์ซื้อลิป DUO 5 แท่งในราคาพิเศษเพียง 1,450 บาท พร้อมรับฟรี รีมูฟเวอร์ 1 ขวด รวมถึงส่วนลดอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม การรุกขยายธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงหนัง เนื่องจากปีก่อนธุรกิจเผชิญวิกฤติโควิด-19 ระบาด "สื่อโฆษณา" เป็นอีกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ เพราะโรงหนังต้องปิดให้บริการเป็นเวลานาน เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย บริษัทจึงต้องเดินเกมลุยรัวๆ เพื่อพลิกฟื้นการเติบโต