HTC - มีสองปัจจัยที่จะขับเคลื่อนกำไร (31 ส.ค. 2565)

HTC - มีสองปัจจัยที่จะขับเคลื่อนกำไร (31 ส.ค. 2565)

เราคาดว่าอุปสงค์เครื่องดื่มจะแข็งแกร่งขึ้นใน 2H จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว โดยมองว่ามีสองปัจจัยที่จะขับเคลื่อนกำไร ได้แก่ (i) การปรับขึ้นราคาขายเฉลี่ย 5% ในเดือนสิงหาคม และ (ii) อุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายที่  38 บาท อิงจาก EPS ปี FY22F ที่ 14x

 

การปรับขึ้น ASP จะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q

บริษัทได้ปรับขึ้นราคาขายเฉลี่ยขึ้นอีก 5% ในเดือนสิงหาคม เพื่อสะท้อนถึงต้นทุนการผลิต และ ต้นทุน logistic ที่สูงขึ้น เราคาดว่าการขึ้นราคาขายจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นกลับไปอยู่ที่ระดับ 40-41% ใน 3Q จาก 39% ใน 1H

 

คาดว่าอุปสงค์จะแข็งแกร่งจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว

ในปี 2021 ตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (Non-Alcoholic Ready-to-Drink หรือ NARTD) ในประเทศไทยหดตัวลง 5.6% โดยตลาดในภาคใต้หดตัวถึง 10.6% ซึ่งแสดงว่ามาตรการคุม COVID-19 ส่งผลกระทบกับ HTC มากกว่าเพราะยอดขายนักท่องเที่ยวยอดต่างชาติมีสัดส่วนสูง ในขณะเดียวกัน การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวทำให้ปริมาณยอดขายของ HTC ใน 1H22 เพิ่มขึ้น 5.8% yoy เป็น 32.6 ล้านลัง ซึ่งดีกว่าตลาด NARTD ของประเทศไทยที่โตเพียง 2.9% yoy 

 

 

 

 

คาดว่าจะได้รับผลกระทบไม่มากนักจากการขึ้นภาษีน้ำตาลเฟสใหม่ใน 4Q

บริษัทจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีน้ำตาลใน 4Q เพราะน้ำอัดลมมีส่วนผสมของน้ำตาล 7.6% ในขณะที่ต้นทุนน้ำตาลคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 12% ของต้นทุนการผลิต เราคาดว่าการขึ้นภาษีน้ำตาลเฟสที่ 3 สำหรับเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่ระหว่าง 6%-8% จาก 0.10 บาทต่อลิตร เป็น 0.30 บาทต่อลิตรจะส่งผลกระทบกับต้นทุนประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงประมาณ 0.8%

 

คงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 38 บาท

เราแนะนำ ซื้อ เนื่องจากมองว่ามีสองปัจจัยที่จะขับเคลื่อนกำไร ได้แก่ (i) การปรับขึ้นราคาขายเฉลี่ย 5% ในเดือนสิงหาคม และ (ii) อุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ราคาเป้าหมายของเราที่  38 บาท อิงจาก EPS ปี FY22F ที่ 14x