เมื่อเจ้าของกิจการหรือผู้นำ “เห่อแต่ของใหม่” จะเกิดอะไรขึ้นกับทีมงาน!?

Part.1. อะไรกันนักกันหนา !?

เจ้าของกิจการ และ ผู้บริหาร มักจะ ตื่นตาตื่นใจ จน “ตื่นตูม” และ เห่อ กับแนวคิดทางการบริหารจัดการใหม่ๆ หรือ A.I. พวก Chat GPT ตัวใหม่ ๆ ที่ทยอยออกมา ทั้งจากฝั่งสหรัฐ และของจีน

รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เป็นกระแสระดับโลก

ถ้าไม่ได้ติดตามข่าว ถ้าไม่ได้รับรู้ เรื่องใหม่ ๆ จะรู้สึกครั่นเนื้อ ครั่นตัว ปวดหัวตัวร้อน คล้ายจะมีไข้ เสมือนว่าตนเองเป็นคน ตามไล่กระแสไม่ทัน เสียชื่อผู้บริหารระดับสูงยุคใหม่ ที่ต้องไล่ตามกระแส ให้ทัน รู้ไปทุกเรื่อง ส่วนเรื่องที่รู้จะนำมาใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่อง!

และเมื่อรู้แล้วก็อดไม่ได้ ที่จะนำมาบอกในที่ประชุมหรือบอกกับทีมงานทุกคน ว่าตอนนี้ ทุกคนต้องเปลี่ยนแปลง ทุกคนต้องเรียนรู้ ทุกคนต้องพัฒนานะ เพราะโลกมันเปลี่ยนไปเร็วมาก (ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงที่โลกเปลี่ยนแปลงเร็ว ทุกคนต้องพัฒนา)

แต่ในชีวิตจริง ที่บริษัท จะเปลี่ยนยังไง จะพัฒนายังไง นอกจากจะไม่ได้บอกวิธี ยังไม่ได้มีงบประมาณอะไรให้อีกต่างหาก หรือ ทีมงานทุกระดับ ต้องควักเงินส่วนตัวเรียนรู้ด้วยตนเองหรือเปล่า !?

พูดง่าย ๆ ผู้บริหารระดับสูงหรือเจ้าของกิจการ เห่ออะไรใหม่ ๆ ก็มักจะ “ยัดเยียด” ให้ทีมงาน ต้อง เห่อตาม ในขณะที่ ชีวิตจริง ปัญหาเดิม ๆ ของหน่วยงาน ของสินค้า/บริการ ของลูกค้า ยังคงไม่ได้รับการแก้ไขอะไร

พูดง่าย ๆ อีกครั้งว่า หลังจากเห่อแต่ของใหม่ ได้อวดภูมิให้พนักงานได้รับรู้แล้ว ก็สะบัดก้นจากไปหลังจากได้บอกสิ่งที่อยาก ยัดเยียด ให้ทีมงานรับรู้ ปล่อยให้ทีมงานนั่ง งง ๆ กับเรื่องราวที่รับรู้ แล้วไงต่อ!?

Part.2. อยากให้โลกรู้ว่า เราไม่ตกกระแสนะ !?

เจ้าของกิจการหรือผู้นำ มักจะมีความภาคภูมิใจ ที่ตนเองไม่ตกกระแสใหม่ๆ ไม่ว่ากระแสใหม่ๆนั้นจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ขอให้ได้รู้ ได้มีโอกาสคุย ให้โลกรับรู้ (โดยแสดงออกในโลก Online จะด้วยการ โพส หรืออื่นๆ) ว่า เราเป็นผู้ไม่ตกกระแส

การทันกระแสเป็นเรื่องที่ดี แต่การที่ตามแต่กระแส แต่ไม่สามารถนำมาปรับใช้ให้เกิด ผลเป็นรูปรธรรมกับธุรกิจ กับทีมงาน มันเป็นคนละเรื่อง

มีหลายเรื่อง ที่เคยเป็นกระแส ที่เคยโพส ที่เคยนำมายัดเยียดให้ทีมงานรับรู้ แต่หลังจากนั้น ชีวิตการทำงานก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรพัฒนา ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

คล้ายกับว่า ตั้งหน้าตั้งตารอว่า พรุ่งนี้จะมีกระแสอะไรใหม่ ๆ ออกมาให้กระโจนเข้าไปรับรู้ ไว้คุยอีกหรือไม่

Part.3. ในขณะที่ทีมงาน กำลังคิดและบ่นในเรื่อง !?

ทีมงานเกือบทุกคน ต่างก็จับกลุ่มคุยด้วยความเอือมระอาว่า ช่วงปลายปีที่แล้ว เพิ่งเอาเรื่องใหม่ ๆ มายัดเยียดให้ฟัง มาปีนี้เพิ่งจะเดือนมีนาคม เอาเรื่องใหม่ ๆ มาอีกละ!

ไม่ได้หมายความว่า ทีมงานทุกคนปฏิเสธที่จะเรียนรู้ของใหม่ แต่ทีมงานส่วนมากหรือเกือบทั้งหมด ต้องการรับรู้ว่าการเรียนรู้ของใหม่ ประโยชน์คืออะไร เป็นการเพิ่มภาระให้ตนเองหรือไม่ และปัญหาเดิม ๆ ที่ทีมงานเจอทุกวัน เจ้าของกิจการ หรือผู้บริหาร คิดจะแก้ไขอะไรหรือไม่มากกว่า!?

ไหนจะเรื่องที่ เจ้าของกิจการ หรือ ผู้บริหารสูงสุดบอกว่า ตอนนี้ทุกอย่างต้อง Move ไปที่ Digital รวมทั้งธุรกิจของเราด้วย แต่ในชีวิตจริงของบริษัท ทั้งสินค้า บริการ ทั้งวิธีการบริหาร

ยังคงเป็น Analog แบบโบราณอยุ่แลย!

Part.4. เพลาๆเรื่องเห่อของใหม่ ใช้เวลาFocus เรื่องที่ควรทำจะดีกว่ามั๊ย!?

ก่อนที่จะยัดเยียด เรื่องใหม่ๆให้กับทีมงานเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา….

ลอง ตั้งสติ แล้วมอง ความเป็นจริงในปัจจุบัน ไม่ได้แนะนะให้หยุดเรียนรู้ของใหม่ๆนะครับ เพียงแต่ต้องแยกว่า การเรียนรู้ของใหม่ ๆนั้น เรียนรู้แล้ว จะกลั่นกรองยังไง แล้วค่อย ๆ เลือกว่าอันไหนเหมาะกับสถานการณ์ ธุรกิจและ ทีมงานของเรา

นั่นคือเรื่องของการเรียนรู้ของใหม่

ส่วนเรื่องที่ เร่งด่วน สำคัญกว่าก็คือ สถานการณ์ปัจจุบันของทีมงาน กำลังเกิดปัญหาเรื่องเร่งด่วนอะไรที่ควรแก้ไข

เรื่องที่เรียนรู้มาใหม่ๆ มีมุมไหน ที่นำมาปรับใช้ เพื่อแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาให้กับหน่วยงานและบริษัทได้บ้าง?

แต่ถ้าเรื่องใหม่ๆที่เรียนรู้มา ยังไม่สามารถนำมาปรับใช้ได้ จะนำประสบการณ์ และเรื่องที่เคยเรียนรู้ในอดีตบางเรื่องที่ยังมาปรับใช้ได้ จะมาปรับแก้ปัญหา ที่พนักงาน หรือ ลูกค้า บ่นทุกวันได้ยังไง

เจ้าของกิจการ หรือ ผู้นำยุคปัจจุบัน ทันกระแสในเรื่องใหม่ ๆ เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม และจะน่าทึ่งเพิ่มขึ้น ถ้าสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้มาปรับใช้ รวมทั้งไม่ปล่อยให้ปัญหาเดิม ๆ ของธุรกิจหมักหมม แต่ได้รับการแก้ไขพัฒนา

ในขณะที่เจ้าของกิจการ หรือ ผู้นำยุคปัจจุบัน ที่พยายามกระเสือกกระสน ให้ทันกระแสในเรื่องใหม่ๆ แต่ไม่มีประโยชน์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันที่จะนำมาใช้กับธุรกิจของตนเอง เหนื่อยกับการตามประแสเปล่าๆ

อย่างน้อย จะได้ไม่ถูกทั้งลูกค้า และ ลูกน้อง เม้าท์ว่า….มัวแต่ตามกระแสเรื่องใหม่ ๆ ได้โอ้อวด ได้บอกให้โลกรับรู้ว่าทันกระแส แล้ว….ชีวิตกับธุรกิจ มีอะไรดีขึ้นบ้างมั๊ย!?