เลือกเล่นรายตัว (วันที่ 5 เมษายน 2565)

เลือกเล่นรายตัว (วันที่ 5 เมษายน 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET ปิดบวก 2 จุด ดัชนีแกว่งกรอบแคบตลอดทั้งวันนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นธีมเปิดเมือง แต่ราคาปรับขึ้นในกรอบจำกัดเนื่องจากบางตัวปรับขึ้นตอบรับข่าวไปแล้ว

ส่วนหุ้นกลุ่มหลักอยู่ในโหมดพักตัว ปัจจัยต่างประเทศนักลงทุนรอดูมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่หลังพบผู้เสียชีวิตจำนวนมากในยูเครน

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมิน SET ขึ้นทดสอบ 1,710 จุดก่อนสลับอ่อนตัวตามแรงหนุน Fund flow ต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง รวมถึงราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังสหรัฐและพันธมิตรเตรียมคว่ำบาตรรัสเซียรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนยังมีความไม่แน่นอนหลังผู้นำยูเครนเผยว่ารัสเซียได้สังหารหมู่ชาวยูเครนในเมืองบูชาส่งผลให้การเจรจาสันติภาพมีความลำบากและกดดันต่อทิศทางการลงทุน

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

           PTTEP TOP IVL SPRC BCP ราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูง

           AOT AAV BA MINT CENTEL ERW CPN CRC HMPRO CPALL MAKRO AMATA WHA อานิสงส์การเปิดประเทศ

           KCE HANA SVI BBIK BE8 ADD ได้ sentiment บวกหุ้นกลุ่มเทคฯฟื้นตัวขึ้น

 

หุ้นแนะนำวันนี้

CENTEL (ปิด 50 ซื้อ/เป้า 44) ได้ประโยชน์โดยตรงภาครัฐเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Test and Go) ไม่ต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเข้าไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติตอบรับคึกคัก คาดหนุนจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 1 เม.ย. เป็นต้นมา

HMPRO (ปิด 16 ซื้อ/เป้า 18.5 บาท) คาดแนวโน้มรายได้และกำไร 1Q22 ดีต่อเนื่องจาก 4Q21 จากการคลายมาตรการล็อกดาวน์ รัฐกระตุ้นกำลังซื้อผ่านมาตรการช้อปดีมีนคืน และเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (HMPRO มีสัดส่วนรายได้จากเมืองหลักและท่องเที่ยว 70%ของรายได้รวม)

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

CRC, CPF, PTTEP

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) กลุ่มน้ำมัน- ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์กังวลอุปทานตึงตัวอีกครั้ง: หลังจาก ปธน. โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เรียกร้องให้มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำตัว ปธน. ปูติน ผู้นำรัสเซีย ขึ้นศาลในฐานะอาชญากรสงคราม หลังมีการพบผู้เสียชีวิตจำนวนมากในยูเครน ขณะเดียวกันบรรดาชาติพันธมิตรเตรียมคว่ำบาตรรัสเซียมากขึ้นเพื่อตอบโต้ต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นในยูเครน และทำให้การเจรจาสันติภาพยากลำบากมากขึ้น

(+) ผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้าเริ่มปรับตัวดีขึ้น: สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 117.92 ดีขึ้นเล็กน้อยจาก 113.03 ในการสำรวจครั้งก่อน ตอบรับภาครัฐทยอยเปิดประเทศ กำไร บจ. ออกมาในทิศทางที่ดี แต่ยังมีความกังวลในเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด หุ้นที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุดคือ กลุ่มธนาคาร ส่วนกลุ่มแฟชั่นไม่น่าลงทุน

(+/-) วันนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทยคาดยังพุ่งต่อเนื่องแต่ยังไม่น่ากังวล: กระทรวงพาณิชย์จะรายงานอัตราเงินเฟ้อของไทยเดือน มี.ค.ในวันที่ 5 เม.ย.นี้ เบื้องต้น Consensus คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจจะเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 5.7-6.3% จาก 5.28% ในเดือน ก.พ. อย่างไรก็ตามยังมองว่าปัจจัยนี้ยังไม่น่ากังวลเนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเป็นผลจากปัจจัยด้านอุปทานหรือจากราคาน้ำมันเป็นหลักจึงมั่นใจว่าเงินเฟ้อที่พุ่งสูงยังไม่กดดันให้แบงก์ชาติต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย