ช่วงสั้นบรรยากาศยังบวกสำหรับการเก็งกำไรรายตัว

ช่วงสั้นบรรยากาศยังบวกสำหรับการเก็งกำไรรายตัว

บรรยากาศเก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็กเป็นบวก แต่อัพไซต์ของตลาดในไตรมาส 2/65 จำกัด หุ้นขนาดใหญ่เริ่มมีความเคลื่อนไหวที่จำกัดหลังไร้ปัจจัยบวกใหม่

ขณะที่กลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็กเคลื่อนไหวได้ดีกว่า จากประเด็นเก็งกำไรต่างๆ และความคาดหวังข้อมูลเชิงบวกที่อาจจะออกมาจากการประชุมผู้ถือหุ้นเดือนเม.ย. อย่างไรก็ตามเรามองหากขึ้นแรงจะเป็นโอกาสทยอยแบ่งขายทำกำไรที่ดี เนื่องจากอัพไวต์ในภาพรวมที่จะจำกัดมากขึ้นจากหลายปัจจัย ได้แก่ 1) การปรับประมาณการกำไรบจ. เนื่องจากเงินเฟ้อและต้นทุนสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นจากปัญหาความตึงเครียดในยูเครน 2) ความกังวลต่อสัญญาณการเกิดเศรษฐกิจถดถอยที่มาจากตลาดพันธบัตร 3) การขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของธนาคารกลางสหรัฐฯ 4) การปรับลดขนาดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐฯ และ 5) การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย (จากราคาพลังงานที่สูง)

ภาพรวมกลยุทธ์ไตรมาส 2/65 คือ การเก็งกำไรระหว่างรอจุดซื้อที่ดี เราประเมินเป้าหมาย SET Index ที่ 1,730 จุด อิงค่าเฉลี่ย PER 5 ปีที่ 18.6 เท่า ด้วยปัจจัยเสี่ยงข้างต้น ทำให้เราประเมินความผันผวนและกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ในระดับ 2 เท่าของ PE multiple หรือคิดเป็นกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,540-1,730 จุด เราไม่คิดว่าตลาดจะปรับตัวรุนแรงเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี 2563 อย่างไรก็ตามภาวะที่อัพไซต์ของหุ้นใหญ่จำกัด จะทำให้การเก็งกำไรขึ้นกับธีมการลงทุนของหุ้นรายตัวมากขึ้น และนักลงทุนควรกำหนดเป้าหมายของการเก็งกำไรและตัดขาดทุนทุกครั้ง

เน้นหุ้นได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในและการเปิดประเทศ อาทิ ธนาคาร ค้าปลีก สื่อสาร ขณะที่หุ้นโภคภัณฑ์ เก็งกำไรได้เฉพาะหุ้นที่ผลประกอบการยังไม่ผ่านจุดสูงสุด (เหลือเพียง IVL และ TOP) โดยหุ้นเด่นที่เรามองซื้อ/ทยอยสะสมในช่วงไตรมาส 2/65 ได้แก่ BBL, TIDLOR, CPN, CENTEL, BJC, OSP, TRUE, ONEE, IVL, TOP / ขณะที่หุ้นที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของเรา แต่มองว่าน่าสนใจ ได้แก่ MAKRO, MAJOR, TKN, SPA

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มพลังงาน PTTEP, BANPU, TOP (เน้นโรงกลั่น) 2) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นกลุ่มที่มักจะเคลื่อนไหวได้ดีในภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้ง valuation ต่ำ และปันผลสูง ทำให้มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของ LH, SPALI, AP, SC, ASW 4หุ้นเด่นไตรมาส 2/65 ที่เราชอบได้แก่ BBL, TIDLOR, CPN, OSP, TRUE, ONEE, TOP และ IVL 5) ขณะที่หุ้นที่สามารถเลือกเก็งกำไรในช่วงนี้ ได้แก่ PJW, TTCL, THREL, BLA, IND, MAJOR, WORK, TH, ERW, MINT, CENTEL ,SHR, AAV, SCN, SCI เป็นต้น

ภาพรวมกลยุทธ์: เน้นเก็งกำไรรายตัวระหว่างรอจุดซื้อที่ดี ที่น่าจะเกิดจากการปรับประมาณการกำไรบจ.ในช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/65 ดังนั้นการขึ้นของตลาดช่วยเม.ย.เป็นจังหวะในการทยอยลดน้ำหนักหรือแบ่งขายทำกำไร //หุ้นแนะนำ: TOP*, IND*, ASW*, PJW*

แนวรับ: 1,675-1,685 / แนวต้าน : 1,705-1,720 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

 

 

 

 

ประเด็นการลงทุน

IVL – ปิดดีลซื้อกิจการ “Oxiteno” มูลค่า $150 ล้าน พร้อมรับรู้รายได้ทันที คาดช่วยลดค่าใช้จ่าย $100 ล้าน จากการปรับรูปแบบการดำเนินงาน หนุนธุรกิจ IOD หวังเพิ่ม EBITDA ขึ้นสองเท่าในทุกๆ 5 ปี

NER – พร้อมผลิตแผ่นปูรองนอนสัตว์ต้น ก.ค.นี้ คาดสร้างรายได้ปีนี้กว่า 408 ล้านบาท โอกาสเติบโตต่อเนื่อง ชี้ดีมานด์ยางพารายังสูง รถยนต์ไฟฟ้าหนุน มองราคายางแผ่นรมควันเกิน 70 บาทต่อกิโลกรัม เดินหน้าเจรจาลูกค้าอินเดียอีก 2 ราย คาดมีความชัดเจนในช่วงไตรมาส 3/65

ATP30 – แนวโน้มธุรกิจไตรมาส 1/65 มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากการให้บริการรถรับส่งพนักงาน จำนวน 637 คัน ซึ่งถือว่าสูงสุดตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการ

ผู้ถือหุ้น DTAC TRUE อนุมัติแผนควบรวมกิจการ - DTAC มีมติอนุมัติแผนการควบรวมบริษัทระหว่าง DTAC และ TRUE ด้วยคะแนนเสียง 89.0787% ของผู้ที่มีสิทธิออกเสียง ขณะที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้น TRUE มีมติเป็นเอกฉันท์ 99.3713% ทั้งนี้ มีการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ DTAC และผู้ถือหุ้น TRUE ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมใน DTAC ต่อ 6.13444 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้นเดิมใน TRUE ต่อ 0.60018 หุ้นในบริษัทใหม่

Opportunity day –5 เม.ย. CEN, GLOCON, YGG, DDD, UBIS, RATCH / 7 เม.ย. MVP, ECF, BRR, UBE, SALEE, OISHI, FN / 8 เม.ย. AHC, FVC, MST, NOK

 

ประเด็นติดตาม: 5 เม.ย. – Thailand CPI index เดือน มี.ค., 6 เม.ย. – EU PPI index เดือน ก.พ., 7 เม.ย. – FOMC Meeting Minutes

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)