CHG มีแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่องในปี 2565F

CHG มีแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่องในปี 2565F

หลังจากที่ผลการดำเนินงานในปี 2564 ออกมาแข็งแกร่งเป็นพิเศษ โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท (+379.5% YoY) เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มการเติบโตของ CHG ในปี 2565

เนื่องจาก i) COVID-19 กลับมาระบาดในประเทศไทยตั้งแต่ต้นปีนี้ และ ii) ผู้ป่ วยที่ไม่ได้ติดเชื้อ COVID กลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้น เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ CHG จะแข็งแกร่งใน 1Q65 เนื่องจาก i) จำนวนผู้ติดเชื้อ
COVID-19 เพิ่มขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์ Omicron (จาก 6,739 ราย/วัน ใน 4Q64 เป็น 11,330 ราย/วันใน 1Q65F) ii) จำนวนผู้ป่ วยที่ไม่ได้ติดเชื้อ COVID ฟื้นตัวขึ้นทั้งในส่วนของผู้ป่ วยชาวไทยและต่างชาติ iii) มีการรับรู้รายได้จากการฉีดวัคซีน Moderna iv) ผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 และรวมแพทย์ ฉะเชิงเทราดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะทำกำไรได้ในปีนี้ v) จำนวนผู้ป่วยประกันสังคมสูงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 457,000 รายในปี 2564 จากปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าว เราเชื่อว่าผลประกอบการของ CHG ใน 1Q65 จะดีขึ้นอย่างมาก YoY เพราะกำไรสุทธิใน 1Q64 ดูปกติอยู่ที่ 252 ล้านบาทเท่านั้น เราประเมินเบื้องต้นว่า กำไรสุทธิของ CHG ใน 1Q65 จะอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาทเป็นอย่างน้อย (+415.9% YoY, -28.3% QoQ)

 

ธุรกิจโรงพยาบาลมีการกระจายตัวดี

เรามองบวกกับแนวโน้มการเติบโตของ CHG เนื่องจาก i) ผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 และรวมแพทย์ ฉะเชิงเทรา น่าจะทำกำไรได้ในปีนี้ ii) รายได้จากการรับจ้างบริหารโรงพยาบาล (ได้แก่ พัทยา, เกาะล้าน และศูนย์หัวใจโรงพยาบาลสิรินธร) และ iii) จำนวนเตียงผู้ป่ วยเพิ่มขึ้นจากโรงพยาบาลใหม่ (แม่สอด 100 เตียง, ศูนย์มะเร็ง 50 เตียง และแพรกษา 100 เตียง) ภายในปี 2569

 

 

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY65-66F ขึ้นอีก 63.8% และ 8.1%

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY65F และ FY66F ขึ้นเนื่องจาก i) เราปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ YoY ขึ้นอีก 27.0% และ 1.4% ii) เราปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 37.9% และ 36.3% (จากเดิม 35.0 และ 36.0%) เพื่อสะท้อนถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และ iii) เราปรับลดสัดส่วน SG&A/รายได้ปี 2565F ลงเหลือ 11.0% (จากเดิม 12.5%) ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F เป็น 2.19 พันล้านบาท (-47.9% YoY) และปี 2566F เป็น 1.63 พันล้านบาท (-25.6% YoY)

 

Valuation & Action

เราคาดว่า ผลประกอบการของ CHG จะยังคงแข็งแกร่งหลังจากที่สถานการร์โรคระบาดผ่านพ้นไปแล้ว โดยคาดว่าโรงพยาบาลจะกลับมาดำเนินกิจการตามปกติในปี 2565 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า CHG น่าจะสามารถเติบโตได้อีกในระยะยาวจากการเพิ่มบริการรักษาพยาบาล และทำเลที่ตั้งที่ตอบรับ EEC ทั้งนี้ เราปรับเพิ่มคำแนะนำจากถือเป็นซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ใหม่ที่ 4.50 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.9% และ TG ที่ 3.0%) (จากเดิม 4.00 บาท)

 

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจชะลอตัวลง และ เกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่