จับตาศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่เปิดรับงาน APEC 22

จับตาศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่เปิดรับงาน APEC 22

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ เผยความคืบหน้าศูนย์ฯ สิริกิติ์ โฉมใหม่ งานรุดหน้าแล้วกว่า 80% เตรียม พร้อมรับงาน APEC 22 หวังขึ้นแท่นสุดยอดอีเวนท์แพลตฟอร์มของเอเชีย ดีเดย์ เปิดกันยายน 65

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า FPT ภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาศูนย์ฯสิริกิติ์ โฉมใหม่ ซึ่งเปรียบเหมือนภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการต้อนรับผู้มาเยือนจากทั่วโลก ทีมงานของ FPT ได้นำความชำนาญและประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ ควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มออกแบบจนถึงการก่อสร้าง ซึ่งทุกส่วนงานได้บรรลุตามเป้าหมายอย่างราบรื่น

ปัจจุบันโครงสร้างอาคารได้แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ขณะนี้อยู่ในช่วงเฟสสุดท้ายของการพัฒนาและเริ่มทยอยตกแต่งพื้นที่ตามคอนเซ็ปต์ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” เพื่อให้สะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทยที่เป็นเอกลักษณ์สู่สายตานานาชาติ บริษัทมั่นใจว่าด้วยการบริหารงานเชิงรุก และการวางแผนอย่างรอบคอบ จะทำให้สามารถเอาชนะกับทุกความท้าทายและการแข่งขันด้านเวลาได้ด้วยดี โดยพร้อมส่งมอบโครงการตามคุณภาพมาตรฐานระดับสากล ทันกับกำหนดการเปิดให้บริการในต้นเดือนกันยายน 2565 อย่างแน่นอน 
 

เพื่อให้ QSNCC โฉมใหม่ ก้าวสู่การเป็น The Ultimate Inspiring World Class Event Platform for All ที่จะเป็นอีเวนท์เดสติเนชั่นระดับเวิลด์คลาสแห่งใหม่ในเอเชีย

นอกจากดีไซน์ของโครงการที่ถูกปรับให้มีความทันสมัย สง่างาม สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้อย่างลงตัว ภายในโครงการยังได้ออกแบบเพื่อรองรับการจัดงานประชุมและอีเวนท์ทุกรูปแบบ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย และเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้จัดงาน และผู้เข้าใช้บริการได้อย่างครอบคลุม 

จับตาศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่เปิดรับงาน APEC 22

ศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่มีพื้นที่ใช้สอยรวม 300,000 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วนพื้นที่จัดงานอีเวนท์มากถึง 78,500 ตารางเมตร โดยตัวอาคารมีจุดเด่นด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างที่ทันสมัย ด้วยการใช้เทคโนโลยี Sliding Super Truss ในการติดตั้งโครงสร้างเหล็กที่สามารถรับน้ำหนักได้มาก ทำให้พื้นที่จัดงานของศูนย์ประชุมกว้างขวางและยืดหยุ่นสูงเพราะไม่มีเสาค้ำยัน จึงสะดวกต่อการจัดการระบบโลจิสติกส์และขนย้ายสินค้าจัดแสดงทุกประเภทเข้าในพื้นที่ สามารถรองรับการจัดประชุม และนิทรรศการหลากหลายรูปแบบได้พร้อมๆ กัน 
 

โดยภายในแบ่งเป็นพื้นที่ฮอลล์ขนาดใหญ่รวม 50,000 ตารางเมตร ห้องสำหรับจัดประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ 2 ห้อง รวมขนาดพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร และห้องประชุมย่อยหลายขนาดอีก 50 ห้อง นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคที่ครบครัน เหมาะสำหรับการประชุมและอีเวนท์ทุกประเภท และจัดเต็มด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแห่งอนาคต (5G) เพื่อรองรับการใช้งานในยุคเว็บ 3.0 ให้สมบูรณ์แบบ และไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น 

เพื่อยกระดับคุณภาพ และมาตรฐานศูนย์ประชุมของประเทศไทย ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล จึงได้ประยุกต์ใช้ระบบอัจฉริยะเพื่อควบคุมการเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ และการบริหารจัดการสาธารณูปโภคภายในอาคาร โดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัย และการประหยัดพลังงานควบคู่กัน นอกจากนี้ ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ยังมีเป้าหมายที่จะผ่านการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว LEED ระดับ Silver


สำหรับด้านที่ตั้งของศูนย์ฯ สิริกิติ์ ที่อยู่ใจกลางเมืองจึงสะดวกต่อการเดินทาง สามารถเข้าถึงโครงการได้จากหลากหลายเส้นทาง ทำให้ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่รับรองงานประชุมสำคัญเสมอมา  และเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้จัดงานและผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น จึงได้เพิ่มจำนวนที่จอดรถกว่า 5 เท่า หรือ สามารถจอดรถได้สูงสุดถึง 3,000 คัน นอกจากนี้ ยังได้ทำทางเชื่อมต่อตรงกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT เข้าสู่ภายในอาคารได้โดยสะดวก 
 

“FPT เชื่อมั่นว่าการกลับมาครั้งใหม่ อย่างยิ่งใหญ่ของศูนย์ฯ สิริกิติ์ ครั้งนี้ จะนิยามบทใหม่ของธุรกิจอุตสาหกรรมบริการ ด้วยศักยภาพของ QSNCC ที่ครบครันด้วยเทคโนโลยีและสาธารณูปโภคด้านการประชุมที่ดีที่สุดตามมาตรฐานระดับสากล ภายในโครงการยังมีพื้นที่รีเทลภายใต้คอนเซ็ปต์ Bangkok Active Lifestyle Mall หรือ “BALM” ที่จะกลายเป็นเดสติเนชั่นแห่งใหม่ของคนเมือง สามารถรองรับทั้งกลุ่มผู้ใช้บริการศูนย์ประชุม และตอบโจทย์ดีมานด์ของชุมชนโดยรอบรวมถึงคนทำงานในเมืองได้เป็นอย่างดี"

นายธนพล  คาดว่าจะมีผู้เข้าใช้บริการใน BALM จำนวนมากถึง 13 ล้านคนต่อปี ในการร่วมสร้างประวัติศาสตร์ทางธุรกิจที่สำคัญนี้ FPT ได้นำประสบการณ์ และความรู้ที่สั่งสมในธุรกิจอสังหาฯ ครบวงจร ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมาใช้ เพื่อสนับสนุนการยกระดับการให้บริการแพลตฟอร์มอีเวนท์ทุกรูปแบบของประเทศไทย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า QSNCC จะเป็นตัวแทนของประเทศไทย ในการส่งมอบประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสให้แก่ผู้จัดงาน และผู้ใช้บริการทุกราย

ปัจจุบัน พื้นที่รีเทล BALM อยู่ระหว่างการทยอยปิดดีลแบรนด์ชั้นนำ ซึ่งคืบหน้าแล้วกว่า 40% สำหรับแบรนด์ชั้นนำที่ต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์สเปซแห่งกรุงเทพฯ 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์