“นกแอร์” ขอ 3 เดือน รีเทิร์นบิน “เบตง” จี้รัฐอุ้มต้นทุน-การันตีรายได้

โดยตามตารางบินเดิมของสายการบินนกแอร์ เคยประชาสัมพันธ์ไว้ว่าจะให้บริการเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ – เบตง จ.ยะลา จำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทำการบินในวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ด้วยเครื่องบินบอมบาร์ดิเอร์ แดช8-คิว 400 ซึ่งสามารถจุผู้โดยสารได้ 86 คน

แต่ปรากฏว่าวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา นกแอร์ยังไม่สามารถทำการบินได้

ทางนกแอร์จึงได้ออกแถลงการณ์ให้เหตุผลของการยกเลิกเที่ยวบินสู่เบตงตามมาว่า ...สายการบินฯเผชิญกับปัญหา “มีเวลาทำตลาดที่น้อย” ทำให้จำนวนผู้โดยสารของสายการบินไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับ “ต้นทุนการปฏิบัติการบินที่ค่อนข้างสูง” โดยเฉพาะค่าน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการปฏิบัติการบินต่างๆ

วานนี้ (18 มี.ค.) นกแอร์ได้จัดเที่ยวบินกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวเบตง ด้วยการนำสื่อมวลชนและบล็อกเกอร์สายท่องเที่ยวสำรวจสถานที่ท่องเที่ยว “กรุงเทพธุรกิจ” ได้ร่วมเดินทางและพูดคุยกับผู้บริหารของนกแอร์และภาคเอกชนท่องเที่ยว อ.เบตง ถึงแนวทางการแก้ปมปัญหานี้ เพื่อให้นกแอร์สามารถกลับมาทำการบินสู่เบตงได้อีกครั้ง!

 

++ แจงดีมานด์บิน กรุงเทพฯ-เบตง น้อยเกินคาด

นายธีรพล โชติชนาภิบาล ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ตอนมีข่าวว่าสายการบินนกแอร์สนใจทำการบินเส้นทาง กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - เบตง ก็มีเสียงตอบรับจากฐานลูกค้าและตัวแทนจำหน่าย (เอเย่นต์) ว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ดีมานด์รออีกเพียบ ทางภาครัฐเองก็บอกว่าหากสายการบินไหนสนใจทำการบินก็ขอให้บอกมา

ทางนกแอร์ก็เตรียมความพร้อมรอจนกระทั่งได้ใบอนุญาตทำการบินเส้นทางสู่เบตง และเปิดขายตั๋วบินได้สักพัก พบว่ามีกระแสการจองตั๋วบินเข้ามาช้ากว่าที่คิดไว้มาก! ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ต่อวันยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้ายังไม่กล้าเดินทาง ทางเอเย่นต์เองก็บอกว่ายอดขายไปไม่ไหวจริงๆ ผลตอบรับน้อยมาก ทางนกแอร์เองก็เห็นว่าผลตอบรับในส่วนที่ทำการขายเองก็ยังไม่ค่อยดีเช่นกัน

“ตอนแรกเราก็ไม่ได้สงสัยว่ายอดขายจะน้อย เพราะในช่วงแรกที่เราประกาศว่าสนใจทำการบินเส้นทางสู่เบตง ก็มีลูกค้าตอบรับดี สอบถามเข้ามาว่าเมื่อไรจะเริ่มทำการบิน อยากไปเที่ยวเบตง เหตุผลที่ต้องยกเลิกเที่ยวบินจึงเป็นเรื่องของยอดขาย ไม่ใช่ประเด็นเรื่องหักหน้านายกรัฐมนตรี แต่อย่างใด” นายธีรพลกล่าวยืนยัน

++ ขอ 3 เดือนเร่งทำตลาด จี้รัฐการันตีรายได้ 75%

นายธีรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ไม่เป็นใจ! นกแอร์จึงจำเป็นต้อง “เลื่อนวันดีเดย์” เริ่มทำการบินออกไปก่อน

ขอเวลาทำการตลาดอีก 2-3 เดือนนับจากนี้ เพื่อเร่งโปรโมท “เบตง” ให้นักท่องเที่ยวรู้จักมากขึ้น!!

ไม่ว่าจะเป็นตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทย นกแอร์วางเป้าชิงส่วนแบ่ง 5% จากตลาดการเดินทางทางบกซึ่งปัจจุบันมีบริการรถไฟและรถบัสปรับอากาศรวมประมาณ 10 เที่ยวต่อวัน โดยเป็น 5% ที่ยินดีจ่ายค่าตั๋วบินเพื่อแลกกับความสะดวกสบายในการเดินทาง จากปกติต้องนั่งรถไฟหรือรถบัสเข้ากรุงเทพฯนานถึง 15 ชั่วโมง วางราคาขายตั๋วบินเริ่มต้นที่ประมาณ 3,500 บาทต่อเที่ยวบิน

ส่วนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียซึ่งเป็นอีกตลาดสำคัญ ตั้งเป้าดึงชาวมาเลเซียที่เดินทางข้ามด่านชายแดนมาเบตง เมื่อท่องเที่ยวในเบตงแล้ว ก็สามารถบินตรงไปเที่ยวกรุงเทพฯต่อได้ โดยในวันที่ 1 เมษายน 2565 ทางรัฐบาลมาเลเซียเตรียมเปิดพรมแดน หลังจากปิดประเทศมานาน 2 ปีนับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19

“นกแอร์ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ ด้วยการการันตีรายได้ 75% ในช่วง 6 เดือนแรกที่ให้บริการเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตง อยากให้ภาครัฐช่วยทำให้เราอุ่นใจ ช่วยชดเชยไม่ให้เราขาดทุนมากนัก”

 

++ 21 มี.ค.นี้ เอกชนท่องเที่ยวถกนกแอร์หวนบินเบตง

ด้านนายนรินทร์ เรืองวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง และที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเมือง กล่าวว่า จากประเด็นนกแอร์จำเป็นต้องเลื่อนทำการบินเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตง ออกไปก่อน เพื่อใช้เวลาในการทำตลาดเพิ่ม ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ จะมีการหารือร่วมระหว่างนกแอร์กับสมาคมด้านการท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ)

สำหรับประเด็นที่จะหารือกัน มี 2 เรื่องหลัก ได้แก่

1.การการันตีจำนวนที่นั่งในแต่ละเที่ยวบินที่ 75% โดยภาคเอกชนจะร่วมมือทำการตลาดอย่างเต็มที่เพื่อให้มีผู้โดยสารตามเป้าหมายขั้นต่ำของนกแอร์

2.ราคาตั๋วโดยสาร เพื่อกำหนดราคาขายตั๋วบินที่เหมาะสมกับตลาด โดยทางนกแอร์ประเมินว่าราคาขายเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตง ควรอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาทต่อเที่ยวบิน แต่สมาคมฯประเมินว่าราคาที่ตลาดรับได้อยู่ที่ 2,500 บาทต่อเที่ยวบิน เมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ อยู่ที่ประมาณ 1,500 บาทต่อเที่ยวบิน และต้องนั่งรถต่อมาที่ อ.เบตง อีกประมาณ 4-5 ชั่วโมง

“ภาคเอกชนท่องเที่ยวเบตงต่างคาดหวังว่านกแอร์จะกลับมาให้บริการเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตง อีกครั้ง เริ่มวันที่ 1 เม.ย.นี้เป็นต้นไป เพื่อสอดรับการเปิดด่านพรมแดนมาเลเซีย ในวันที่ 1 เม.ย.นี้ รองรับการเดินทางจากนักท่องเที่ยวมาเลเซีย นอกจากนี้ยังตรงกับวันเช็งเม้ง ที่ชาวเบตงจะเดินทางกลับบ้านเกิดมาไหว้บรรพบุรุษ หลังจากมีการพูดคุยกับผู้ประกอบการทัวร์นำเที่ยวในตลาดมาเลเซียและสิงคโปร์ พบว่ามีดีมานด์ต้องการเข้ามาเที่ยวไทยสูงหากมีการเปิดด่านมาเลเซีย หลังจากตลาดซบเซาเพราะสถานการณ์โควิด-19 โดยเมื่อปี 2562 ก่อนเจอวิกฤตินี้ มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์มาเที่ยว จ.ยะลา กว่า 6 แสนคนต่อปี”

 

++ หวังนกแอร์เริ่มบิน 1 เม.ย. รับเปิดด่านมาเลย์ ฟื้นโรงแรมเบตง

นายพฤกษ์ วงศ์นามโรจน์ อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง และประธานชมรมโรงแรมอำเภอเบตง กล่าวเสริมว่า ภาพรวมตลาดโรงแรมที่พักใน อ.เบตง จ.ยะลา มีจำนวนโรงแรมประมาณ 30 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพักราว 2,000 ห้อง นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 กระทบต่อราคาห้องพักปรับลดลงจากเคยขายประมาณ 1,000 บาทต้นๆ ต่อคืน เหลือเริ่มต้นเพียง 400 บาทต่อคืน

“หากนกแอร์สามารถกลับมาเปิดเส้นทางบินสู่เบตงได้ รวมถึงการเปิดด่านพรมแดนไทย-มาเลเซียในวันที่ 1 เม.ย.นี้ คาดว่าจะช่วยฟื้นราคาห้องพักให้กลับมาอยู่ในราคาปกติ หรือเพิ่มขึ้น 30-40% จากราคาขายในปัจจุบัน”

โดยขณะนี้อัตราการพักเฉลี่ยของโรงแรมอยู่ที่ 20% เทียบจากช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 เมื่อปี 2562 ซึ่งมีอัตราการเข้าพักราว 40-50% คาดการณ์ว่าเมื่อมีเที่ยวบินลงสนามบินเบตง การเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยจะเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับได้อานิสงส์จากโครงการกระตุ้นท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อย่างโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และทัวร์เที่ยวไทย