ลงทุนอย่างไรใน "ภาวะสงคราม" ?

ลงทุนอย่างไรใน "ภาวะสงคราม" ?

ผลพวงจากภาวะสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ทำให้ไม่กี่วันที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น จะเห็นข่าวคนเทขายทองกันเยอะเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ไม่ใช่เพียงราคาทองที่มีการปรับตัว ยังรวมไปถึงราคาน้ำมัน สินทรัพย์กลุ่มอื่นๆ ทั้งหุ้นกลุ่ม Cybersecurity, หุ้นกลุ่มพลังงานสะอาด และราคา Cryptocurrency อีกด้วย

ย้อนกลับไปในอดีต ช่วงเวลาที่เกิดสงครามหรือเกิดภาวะความไม่สงบขึ้น ราคาทองคำมักจะเป็นสินทรัพย์ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากการที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หรือ "Safe Haven" เนื่องจากมีสภาพคล่องสูง และสามารถใช้เป็นหลักประกันทางการเงินได้ ซึ่งนอกจากราคาทองคำแล้ว ราคาน้ำมันก็มักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน จากความกังวลในเรื่องของการขาดแคลนพลังงาน อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันที่เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน พบว่า มีสินทรัพย์อื่นๆ ที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากทองคำและน้ำมัน

เกิดอะไรขึ้นกับรัสเซียและยูเครน?

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาได้เกิดความขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ขึ้น เนื่องจากรัสเซียไม่ต้องการให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization: "NATO") ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรทางการทหาร ขณะที่ทางยูเครนมีความต้องการที่จะเข้าร่วม NATO ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกัน และเริ่มมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งในที่สุด รัสเซียได้มีการยกกองกำลังทหารเข้าโจมตียูเครน ทำให้หลายประเทศทั่วโลกได้มีการออกมาเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารออกจากยูเครน และได้มีการประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย อาทิ การคว่ำบาตรระบบการเงินของรัสเซีย

ราคาของสินทรัพย์ไหนบ้างที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น?

นับตั้งแต่ต้นปี 2022 ราคาทองเพิ่มขึ้น 6% และน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น 46% ต่อเนื่อง (ข้อมูล ณ วันที่ 3 มีนาคม 2022) ส่วนหนึ่งจากในเรื่องของ เงินเฟ้อ และเหตุการณ์ความไม่สงบที่เริ่มส่งสัญญาณมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ทำให้ราคาของทั้งสองสินทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ล่าสุด WTI ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี จากความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันในตลาดโลก เนื่องจากรัสเซียถือเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกพลังงานรายใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน หรือก๊าซธรรมชาติ นอกจากนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ อาทิ ข้าวสาลี ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน สะท้อนจาก Bloomberg Commodity Index ที่หลังจากรัสเซียเข้าโจมตียูเครนได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 8%

ผลตอบแทนแต่ละสินทรัพย์หลังจากที่รัสเซียได้เข้าทำการโจมตียูเครนตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2022

ลงทุนอย่างไรใน \"ภาวะสงคราม\" ?

ที่มา: Bloomberg ข้อมูล ณ วันที่ 3 มีนาคม 2022

นอกจากราคาของทองคำ น้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีสินทรัพย์กลุ่มอื่นๆ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่รัสเซียเข้าบุกโจมตียูเครน

สินทรัพย์กลุ่มไหนบ้าง? ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

  • หุ้นกลุ่ม Cybersecurity

หุ้นกลุ่ม Cybersecurity ปรับตัวเพิ่ม 13% นับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2022 (ข้อมูล ณ วันที่ 3 มีนาคม 2022) หลังจากที่รัสเซียได้มีการเข้าโจมตีทางไซเบอร์ในเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลและธนาคารของยูเครน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่ารัสเซียจะทำการตอบโต้ประเทศที่ทำการคว่ำบาตรรัสเซียด้วยการโจมตีทางไซเบอร์ด้วยเช่นกัน ส่งผลทำให้ความต้องการของ Cybersecurity เพิ่มสูงขึ้น หนุนราคาหุ้นกลุ่ม Cybersecurity ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

นอกจากราคาหุ้นกลุ่ม Cybersecurity จะได้ประโยชน์จากการเข้าโจมตีทางไซเบอร์ของรัสเซียแล้ว ยังได้แรงหนุนจากข่าวที่บริษัทเอกชนหลายบริษัท ถูกโจมตีทางไซเบอร์อย่างหนักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อาทิ บริษัท Supplier ของ Toyota ถูกโจมตีทางไซเบอร์ ส่งผลให้โรงงาน 14 แห่งของ Toyota ต้องหยุดการผลิตชั่วคราว และบริษัท Nvidia ที่ถูกปล่อยข้อมูลพนักงานและข้อมูลบริษัท เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า นอกจากการเข้าโจมตีทางกำลังทหาร ในยุคปัจจุบันการโจมตีทางไซเบอร์กลายเป็นเครื่องมือรูปแบบใหม่ในการทำสงครามรวมถึงใช้เป็นเครื่องมือในการก่อความไม่สงบ ทำให้หลายๆ องค์กรหันมาให้ความสำคัญกับ Cybersecurity มากขึ้น

  • หุ้นกลุ่มพลังงานสะอาด

หุ้นกลุ่มพลังงานสะอาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 11% นับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2022 (ข้อมูล ณ วันที่ 3 มีนาคม 2022) โดยหุ้นกลุ่มพลังงานสะอาดปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากความกังวลเรื่องการขาดแคลนพลังงาน อาทิ แก๊สธรรมชาติ รวมถึงราคาลิเทียมที่ใช้สำหรับการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องบริษัท Renewable Energy Group ที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นได้โดดเด่นหลังจากที่ถูกบริษัท Chevron เข้าซื้อกิจการ

  • Cryptocurrency

ราคา Cryptocurrency อย่าง Bitcoin ปรับตัว 11% (ข้อมูลวันที่ 3 มีนาคม 2022) จากการที่นานาประเทศทั่วโลกหันมาคว่ำบาตรทางการเงินรัสเซีย โดยได้มีการตัดรัสเซียออกจากระบบ SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication) ซึ่งเป็นเครือข่ายแจ้งข้อมูลเมื่อมีการส่งและรับการชำระเงิน ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินเป็นไปอย่างราบรื่น (ระบบ SWIFT ไม่ได้ทำหน้าที่รับจ่ายเงิน) ซึ่งทำให้รัสเซียทำธุรกรรมทำการเงินระหว่างประเทศยากลำบากมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้รัสเซียต้องหันมาใช้ Cryptocurrency ในการแก้ปัญหา นอกจากนี้ ทางฝั่งยูเครนก็ได้มีการเปิดรับบริจาคผ่าน Cryptocurrency อีกด้วย โดยพบว่าปริมาณการซื้อขาย Bitcoin ในสกุลเงิน Ruble และ Ukrainian Hryvnia ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ปัจจุบันที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และได้ก้าวเข้ามีบทบาทความสำคัญจนกระทั่งเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิตของผู้คน ซึ่งรวมไปถึงรูปแบบ หรืออาวุธที่ใช้ในการทำสงคราม ทำให้ในเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน นอกจากราคาทองหรือน้ำมันที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีสินทรัพย์กลุ่มอื่นๆ ที่ได้ประโยชน์อีก อย่างเช่น หุ้นกลุ่ม Cybersecurity หุ้นกลุ่มพลังงานสะอาด และ Cryptocurrency ซึ่งอาจเป็นทางเลือกสำหรับการปรับกลยุทธ์การลงทุนในตอนนี้

ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds