"ธุรกิจไทย" รับมือผลกระทบบุกยูเครน เปิด L/C ประเทศที่ 3 ส่งออกไป”รัสเซีย”

"ธุรกิจไทย" รับมือผลกระทบบุกยูเครน เปิด L/C ประเทศที่ 3 ส่งออกไป”รัสเซีย”

สภาธุรกิจไทย-รัสเซีย เผยผู้ประกอบกอบการไทยเตรียมเปิดแอล/ซี ส่งสินค้าไปรัสเซียผ่านประเทศที่ 3 “จุรินทร์ “มอบปลัดพาณิชย์ถกภาคเอกชนรับมือผลกระทบรัสเซีย-ยูเครน 2 มี.ค.นี้

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาธุรกิจไทย-รัสเซีย กล่าวว่า สภาธุรกิจไทย-รัสเซีย ได้ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยได้ติดตามข้อมูลกับนักธุรกิจรัสเซียมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันมีความตรึงเครียดเพิ่มมากขึ้น และรัสเซียถูกตัดออกจากเครือข่ายการชำระเงินชำระเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก (SWIFT) โดยต้องรอดูรายละเอียดของการถูกตัดจากเครือข่ายดังกล่าว

ทั้งนี้ รัสเซียเคยถูกมาตรการดังกล่าวในปี 2014 หลังจากบุกแคว้นไครเมียทางตอนใต้ของยูเครน โดยผลกระทบครั้งนี้อาจทำให้ผู้ส่งออกไทยที่ต้องการส่งออกไปรัสเซียต้องดำเนินการผ่านประเทศที่ 3 ทั้งการเปิด L/C การทำธุรกรรมทางการเงิน และการส่งสินค้าไปประเทศที่ 3 ก่อนที่จะส่งต่อไปรัสเซีย ซึ่งอาจต้องส่งผ่านประเทศที่เป็นพันธมิตรกับรัสเซีย เช่น เบลารุส จีน

“สถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ผู้ส่งออกต้องมีต้นทุนดำเนินการทางการเงินและต้นทุนโลจิสติกส์มากขึ้น เพราะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นทั้งด้านธุรกรรมทางการเงินและการขนส่งสินค้า” นายเกรียงไกร กล่าว

สำหรับการค้าระหว่างไทยและรัสเซียที่ในปี 2564 มีการค้าร่วมกัน 2,779 ล้านดอลลาร์ โดยไทยส่งออกไปรัสเซีย 1,027 ล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกมากที่สุด คือ รถยนต์และอุปกรณ์ รองลงมาเป็นยางและผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป

ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 1,752 ล้านดอลลาร์ โดยน้ำมันดิบเป็นสินค้าที่ไทยนำเข้าเป็นอันดับ 1 และสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นเกิน 100 ดอลลาร์ จะทำให้ไทยมีโอกาสขาดดุลการค้ารัสเซียเพิ่มมากขึ้น

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เรื่องสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ทำหน้าที่ร่วมกับทุกส่วนราชการของกระทรวงพาณิชย์ ติดตามสถานการณ์ร่วมกับภาคเอกชนโดยใกล้ชิด ตั้งแต่เกิดประเด็น ระหว่างรัสเซีย-ยูเครนโดยวันที่ 2 มี.ค. 65 ได้ให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ประชุมร่วมกับภาคเอกชนอีกครั้ง เพื่อประเมินสถานการณ์ และจะเร่งแก้ปัญหาหน้างานร่วมกันให้เกิดผลดีที่สุดและกระทบในทางบวกกับการส่งออกนำเข้าไทยมากที่สุด และกระทบทางลบน้อยที่สุด

สำหรับเรื่องราคาน้ำมันที่เป็นห่วงว่าจะพุ่งสูง อาจกระทบภาคการผลิตและราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคในประเทศไทยได้ ขณะนี้ราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ จากที่แตะ 100 ดอลลาร์ ขณะนี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ 98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป และเรื่องค่าเงินรูเบิลของรัสเซีย ซึ่งมีความสำคัญต่อการนำเข้าส่งออกของไทย ถือว่ายังไม่เสถียร มีบางช่วงแข็งค่าและอ่อนค่ายังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับสถานการณ์ระหว่างรัสเซียกับยูเครนด้วย

“ขณะนี้รัสเซีย กำลังพิจารณานำเข้าสินค้าจากไทยบางรายการ ต้องดูว่าค่าเงินยังมีความผันผวนมากน้อยแค่ไหน เมื่อค่าเงินรูเบิลมีความเสถียรแล้ว ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ โดยในภาพรวมยังไม่กระทบอย่างมีนัยยะสำคัญ”

รายงานข่าวระบุว่า นายจุรินทร์ ได้สั่งการ ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์เรียลไทม์ และปลัดกระทรวงพาณิชย์ประมวลผลรายงานรายวันทุกวันในระหว่างนี้ ทั้งนี้เพื่อปรับแผนรับมือสถานการณ์ทางการค้าการส่งออกและนำเข้าทั้งในส่วนของ รัสเซีย ยูเครน ยุโรปและอเมริกา