ภาพรวมสถานการณ์เดินหน้าไปตามความตั้งใจของรัสเซีย

ภาพรวมสถานการณ์เดินหน้าไปตามความตั้งใจของรัสเซีย

รัสเซียน่าจะควบคุมยูเครนได้ในเร็ววัน แม้ตลาดจะไม่อาจคาดการณ์ถึงการใช้กำลังทางทหารของรัสเซียต่อยูเครนล่วงหน้า รวมถึงผลกระทบข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง

แต่เมื่อมองย้อนกลับไป เราจะพบสาเหตุที่รัสเซียกล้าดำเนินการในแนวทางดังกล่าวมาจาก 1) ประเทศในกลุ่ม NATO มีจำนวนมากก็จริง แต่มีความหลายกหลายเกินไป ทำให้ความเห็นแตกแยก 2)สถานการณ์ทางเศรษฐกิจหลังโควิด ทำให้หลายประเทศไม่พร้อม และไม่ต้องการจะมีความขัดแย้ง 3) สหรัฐฯ ที่เป็นผู้นำ ไม่ได้มีส่วนได้เสียกับสถานการณ์ตึงเครียดโดยตรง และมีต้นทุนความขัดแย้งที่ต่ำกว่าชาติอื่น 4) ผู้นำสหรัฐฯ เผชิญปัญหาคะแนนนิยม รวมถึงการเลือกตั้งในปีนี้ ทำให้มีข้อจำกัดในการตัดสินใจ 5) ระดับความผูกพันของเศรษฐกิจรัสเซียและยุโรปอยู่ในระดับที่สูง และ 6) รัสเซียมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งโดยเปรียบเทียบ ทั้งจากการเตรียมพร้อมและสะสมทุนสำรองจากเศรษฐกิจที่ดีในฐานะประเทศที่ส่งออกสินค้าเกษตรและโภคภัณฑ์

คาดตลาดฟื้นตัวจากสถานการณ์ที่ชัดเจน และไม่มีการคว่ำบาตรที่รุนแรง สถานการณ์จนถึงขณะนี้ มีความชัดเจนมากขึ้นว่าเดินหน้าไปสู่สิ่งที่รัสเซียตั้งใจ คือ การบีบให้ยูเครนยอมยกเลิกการเข้าเป็นสมาชิก NATO และดำรงสถานะประเทศเป็นกลาง ซึ่ง ณ ขณะนี้ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นโดยการใช้กำลังทางทหารกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอำนาจปกครอง และลงประชามติเรื่องดังกล่าว ซึ่งเมื่อปราศจากการขัดขวางของ NATO การควบคุมยูเครนเป็นเรื่องของเวลา // การส่งกำลังทหารไปยุโรป มีจำนวนน้อย และไม่มีกองทัพเข้าสู่ยูเครน ทำให้น่าจะไม่มีการยกระดับเป็นสงครามโลก // มาตรการประกาศคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และประเทศต่างๆ โดยรวมค่อนข้างเบา และจำกัดการระดมทุนผ่านนักลงทุนและตลาดทุนสหรัฐฯ แต่ไม่กระทบกับระบบชำระเงินระหว่างธนาคาร (SWIFT) ทำให้ผลกระทบต่อรัสเซียและเศรษฐกิจยุโรป รวมไปถึงเศรษฐกิจโลก น่าจะอยู่ในระดับต่ำ เป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยง  

 

 

 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง การเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ บวกต่อ CK, STEC, ITD, UNIQ 2) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นกลุ่มที่มักจะเคลื่อนไหวได้ดีในภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้ง valuation ต่ำ และปันผลสูง ทำให้มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของ LH, SPALI, AP, SC, ASW 3) กลุ่มบันเทิง ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวจากงบโฆษณาที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ บวกต่อ ONEE, BEC, WORK, MONO 4) หุ้นเก็งกำไรทางเทคนิค อาทิ SFT, WFX, CV, UBE, RAM, IND, MAKRO, CPALL, JAS, BCP, AJ, PTL, PJW, III, TNP 5) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, TU, GFPT, TWPC, KSL

ภาพรวมกลยุทธ์: มีโอกาสฟื้นตัวหลังสถานการณ์ในยูเครนน่าจะชัดเจนแล้ว ความเสี่ยงสำคัญยังขึ้นกับมาตรการคว่ำบาตรที่จะออกมา ซึ่ง ณ จนถึงตอนนี้ไม่รุนแรง และไม่น่าสร้างผลกระทบต่อรัสเซียจนทำให้เกิดการตอบโต้ จนกระทบต่อยุโรปและเศรษฐกิจโลก เน้นเก็งกำไรสลับรายกลุ่มโดยเลือกหุ้นที่ยังมีความน่าสนใจในเชิงของ valuation และมีทิศทางการเติบโตของกำไรเป็นบวก //หุ้นแนะนำ: ILINK*, ASW*, MAKRO*, IVL*

แนวรับ: 1,650-1,660 / แนวต้าน : 1,685-1,700 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

 

 

ประเด็นการลงทุน

US GDP 4/64 โตสูงกว่าประมาณการครั้งแรก - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 4/64 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 7% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 6.9% และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

DOHOME - วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 65 เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก มีสต๊อดสินค้ารองรับกับความต้องการของลูกค้าได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถรับรู้รายได้เต็มปีในสาขาที่เปิดในปี 64 จำนวน 4 สาขา

IIG - คาดมีรายได้ทั้งปีเติบโตประมาณ 900-950 ล้านบาท จากการที่ลูกค้าองค์กรธุรกิจต่างๆ ต้อง transform ตัวเองด้วยเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการต่อยอดและขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมา

SAPPE - ภาพรวมปี 65 บริษัทคาดว่ามีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องหลังตลาดต่างประเทศมีดีมานด์ฟื้นตัว ยอดขายขยายตัวสูงต่อเนื่องจากปีก่อน โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้เติบโต 15% โดยเป็นการเติบโตจากตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงมากในอนาคต

 

ประเด็นติดตาม: 4 มี.ค. – TH CPI เดือน ก.พ., US Employment Report

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)