ATP30 แนวโน้มกำไร 4Q64 เติบโต YoY, QoQ หนุนกำไรปี 64 พลิกเติบโต 28%

ATP30 แนวโน้มกำไร 4Q64 เติบโต YoY, QoQ หนุนกำไรปี 64 พลิกเติบโต 28%

ผลการดำเนินงาน 3Q64  ผ่านจุดต่ำสุดใน 2Q64 พลิกเติบโตสูง: งวด 3Q64 มีรายได้จากการให้บริการ 134 ล้านบาท +39%YoY +23%QoQ

เนื่องจากมีลูกค้าใหม่รายใหญ่ที่เริ่มให้บริการ 70 คันตั้งแต่เดือนก.ค. 64 และเริ่มบริการบริหารจัดการรถยนต์ไฟฟ้า  กับบจ.อีวี มี พลัส (EV Me Plus) ตั้งแต่เดือนส.ค. 64 โ ดยมีกำไรสุทธิ 12.5 ล้านบาท +25%YoY +765%QoQ อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 21.8% ปรับดีขึ้นจากระดับต่ำผิดปกติที่ระดับ 15.3% ใน 2Q64 ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการเตรียมรถบริการและพนักงาน อัตรากำไรสุทธิ 9.3% ปรับดีขึ้นจาก 1.3% ในงวด 2Q64 ต่ำกว่าระดับ 10.3% ในงวด 3Q63 งวด 9M64 มีรายได้จากการให้บริการ +23%YoY สู่ระดับ 353.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 23.8 ล้านบาท +26%YoY คิดเป็น 65% ของประมาณการทั้งปีที่ราว 36.8 ล้านบาทซึ่งพลิกเติบโต 22%

- แนวโน้มกำไร 4Q64 เติบโต YoY, QoQ หนุนกำไรปี 64 พลิกเติบโต 28%  : ในช่วง 4Q64 บริษัทมีสัญญาเริ่มบริการลูกค้าใหม่ 2 รายและต่อสัญญาลูกค้าเดิม 1 ราย  ส่วนบริการด้านบริหารจัดการรถไฟฟ้ายังมีทิศทางที่ดี  ฝ่ายวิจัยคาดรายได้จากการให้บริการในช่วง 4Q64 ราว 139 ล้านบาท และคาดกำไรราว 13.1 ล้านบาท +33%YoY +4%QoQ  ด้วยสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น 21.5% ใกล้เคียงกับ 3Q64 ที่ 21.7% อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้ 8.4% อัตรากำไรสุทธิ 9.4%  โดยมีประมาณการรายได้จากการบริการและกำไรสุทธิในปี 64 ที่ราว 493 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 10% จากประมาณการครั้งก่อน) และ 36.8 ล้านบาทใกล้เคียงกับประมาณการก่อนหน้า ซึ่งเติบโต 26% และ 28% ตามลำดับ
 

- คาดอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ระหว่างปี 63-65 ราว 34% ต่อปี : ผลประกอบการในปี 65 ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ลูกค้าเดิมมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนรถบริการตามมาตรการ social distancing การขยายพื้นที่บริการสู่จังหวัดสระบุรี อยุธยา และปราจีนบุรี การมีพันธมิตรใหม่ TTTH เข้ามาถือหุ้นตั้งแต่เดือนมี.ค. 64  ช่วยสร้าง synergy ในการขยายฐานลูกค้าใหม่  การบริหารต้นทุนด้วยการใช้เทคโนโลยีในการบริการและควบคุมการเดินรถ การนำรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มาให้บริการ  เดินหน้าตามกลยุทธ์มุ่งสู่ผู้นำด้าน Smart Mobility ช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้และผลการดำเนินงานในอนาคต  สำหรับประมาณการในปี 65 ฝ่ายวิจัยคาดรายได้จากการให้บริการราว 597 ล้านบาทเติบโต 21% และคาดกำไรราว 51.5 ล้านบาทเติบโต 40% คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ระหว่างปี 63-65 เท่ากับ 34% ต่อปี

- คงคำแนะนำ“ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 65 ที่ 2.53 บาท :  ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว  ในการประเมินราคาเหมาะสมซึ่งอิง Prospect PER ที่ระดับ 35 เท่า (ค่าเฉลี่ย 3 ปี) โดยประมาณกำไรต่อหุ้นในปี 65 ได้เท่ากับ 0.076 บาท คำนวณราคาเหมาะสมได้เท่ากับ 2.53 บาทสำหรับปี 65  ซึ่งยังมีอัพไซต์จากราคาปิดล่าสุด  จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

 

ปัจจัยเสี่ยง : 

1 ลูกค้าเก่าไม่ต่อสัญญาใช้บริการ  
2. บริษัทจัดหารถให้บริการไม่ทันตามกำหนดเวลา 
3. หากรัฐปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลจะทำให้ต้นทุนการให้บริการเพิ่มสูงขึ้น 
4.จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงทำให้บริการใหม่รับส่งนักท่องเที่ยวเติบโตต่ำกว่าแผน