จับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (10 ก.พ. 2565)

จับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (10 ก.พ. 2565)

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งทะลุแนวต้านบริเวณ 1,700 จุด ขึ้นสูงสุดถึง 1,708 จุดพร้อมปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้น จากแรงซื้อในหุ้น Big Cap. ทั้งในกลุ่มธนาคาร ไอซีที และ ขนส่ง

โดยตลาดหุ้นไทย ได้แรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่มีแรงขายออกมามากในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากที่ KCE รายงานงบออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,703.16 จุด +18.93 จุด +1.12% มูลค่าการซื้อขาย 135,625 ลบ.ต่างชาติ +17,416.41 ลบ. TFEX -14,491 สัญญา ตราสารหนี้ +16,331.93 ลบ.
 

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 305.28 จุด +0.86% ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 2% ขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีชะลอตัวลง และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ +0.3% ปิดที่ 89.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเหนือความคาดหมายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน
+ กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปีต่อไป เนื่องจากแม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ยังคงมีความเปราะบางและการฟื้นตัวที่ไม่เท่ากัน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย
+ fundflow ซื้อสุทธิหุ้นไทย YTD เกือบ 4.3 หมื่นล้านบาท
+ ส.อ.ท. เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมกราคม 2565 ว่าเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 รวมเป็น 5 เดือนติดต่อกัน และกลับมาอยู่ระดับใกล้เคียงก่อนวิกฤติโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563

 

ปัจจัยลบ 

- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้เดินหน้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,822 ราย ATK 7,754 ราย ผู้เสียชีวิต 20 ราย รักษาหาย 8,503 ราย
- WHO คาดการณ์ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ย่อย BA.2 ของโอมิครอนจะแพร่ระบาดไปทั่วโลก แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำในผู้ที่เคยติดเชื้อ โอมิครอนมาก่อนหรือไม่
 

- สถาบันปีเตอร์สันเพื่อเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศของสหรัฐเปิดเผยผลการวิเคราะห์ว่า จีนไม่ได้ซื้อสินค้าสหรัฐตามข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคีที่ลงนามในปี 2563 ซึ่งตอกย้ำถึงความล้มเหลวของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์
- โกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี สู่ระดับ 2.25% ภายในปลายปีนี้ และจะแตะระดับ 2.45% ในปลายปี 2566
- ECB กำลังเตรียมความพร้อมให้ธนาคารต่าง ๆ สามารถป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นจากการสนับสนุนของรัสเซีย ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน
- สภาพัฒน์ มองศก.ไทยข้างหน้าเผชิญข้อจำกัดหลังโควิด แนะกระจายอำนาจการผลิตลดความเสี่ยง

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้แกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง หลังจากปรับตัวขึ้นแรงวานนี้ จาก Fund Flow นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาในหุ้นกลุ่ม Big Cap. ขณะที่นักลงทุนยังจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในคืนวันนี้ มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,695-1,710 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกลับมาใช้มาตรการ Test&Go และ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 : ERW CENTEL MINT AOT AAV BA ASAP
• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                                     PEACE - บมจ.พีซแอนด์ลีฟวิ่ง
                                              <SET/PROPCON> ราคา IPO 3.98 บาท

•PEACE ประกอบธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เน้นโครงการที่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายใต้ชื่อ “บ้านพัฒนาการ” “The Exclusive” “Cordiz” “The Glamor” และ “Cher” ณ วันที่ 25 พ.ย. 64 บริษัทฯ มีโครงการอยู่ระหว่างขาย 7 โครงการมูลค่าประมาณ 4.7 พันลบ. และโครงการในอนาคต 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 3 พันลบ.

•ผลการดำเนินงานปี 61-63 บริษัทมีรายได้รวม 665.6 ลบ. 429.8 ลบ. และ 866.9 ลบ. ตามลำดับ รายได้ปี 63 เติบโต 101.7%YoY จากการเปิดขายบ้านโครงการใหม่ คือ Cher งามวงศ์วาน – ประชาชื่น รวมถึงการมียอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น มีอัตรากำไรขั้นต้น ที่ระดับ 37.5%, 38.8%, และ 37.7% ตามลำดับส่งผลให้มีกำไรสุทธิที่ 119.9 ลบ. 31.5 ลบ. และ 133.7 ลบ. คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 18.0%, 7.3% และ 15.4% ตามลำดับ ในช่วง 9M64 มีรายได้รวม 809.6 ลบ. +40.8%YoY อัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 38.8% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ ที่ 150.8 ลบ. +74.7%YoY คิดเป็น %NPM เท่ากับ 18.6%

•เสนอขายหุ้นต่อประชาชน 84 ล้านหุ้น คิดเป็น 20% ของหุ้นทั้งหมด Par 1.00 บาท มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,671.6 ลบ. วัตถุประสงค์การใช้เงิน เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนซื้อที่ดินสาหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 314 ลบ.

•P/E เสนอขายที่ 8.47 เท่า เทียบกับ AP 5.74x, LALIN 6.42x, PRIN 9.59x, PSH 11.44x, SC 6.71x, SPALI 9.49x, QH 12.22x (ที่มา : สรุปข้อสนเทศ)

 

หุ้นมีข่าว

(+) NV (ราคาเหมาะสม 8.50 บาท) สบช่องปลดกัญชาจากบัญชียาเสพติด ตั้งทีม R&D ศึกษาธุรกิจครบวงจร ควบพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ มีกัญชงผสมถั่งเช่า ผู้บริหารรับเดินหน้าผนึกพันธมิตรทั้งดารา ยักษ์ใหญ่ บจ. ออกผลิตภัณฑ์ มีสื่อนอกบ้านรายใหญ่ร่วมด้วย ขณะที่ธุรกิจหลักโรงสกัด-ศูนย์เทเลเซลเดินหน้าตามแผนช่วยดันผลงานกระฉูด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BIZ (ราคาเหมาะสม 9.00 บาท) "สมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์" บอสใหญ่ BIZ แย้มข่าวดีเตรียมเซ็นสัญญารับงานใหม่ มูลค่าเกิน 100 ล้านเร็วๆ นี้ ส่วนทั้งปี 2565 คาดงานออก 1.5-1.6 พันล้านบาท ลุ้นโรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์อลิอันซ์ ผลงานพลิกบวก หลังมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น หนุนมาร์จิ้นฟู (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EKH (Bloomberg Consensus 8.30 บาท) เผยเดือนม.ค.65 คนไข้ OPD/IPD ฟื้น อัตราครองเตียงพุ่ง 80-90% ผู้ป่วยโควิด-19 ไหลเข้ามาต่อเนื่อง วางเป้ารายได้ปี 2565 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% ชี้ศูนย์ IVF ลูกค้าไทยตอบรับดี เตรียมเปิดศูนย์ผู้สูงอายุเดือนพ.ค. 65 อัดฉีดงบ 100-200 ล้านบาท รองรับการลงทุนโปรเจ็กต์ใหม่ปีนี้ แย้มอยู่ระหว่างเจรจาหลายราย คาดไม่เกินกลางปีได้ข้อสรุป (ที่มา ทันหุ้น)

(+) GPSC (Bloomberg Consensus 90.00 บาท) ส่งบริษัทย่อยร่วมเซ็นสัญญาก่อสร้างโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมที่ครบอายุการใช้งาน กำลังการผลิต 96 เมกะวัตต์ มูลค่าราว 4,000 ล้านบาท ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด คาด COD ได้ต้นปี 2567 มั่นใจรักษาสัดส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น (ที่มา ทันหุ้น)