CIMBT เปิดยุทธศาสตร์ปี65 มุ่งสู่ ‘ธนาคารอาเซียนดิจิทัล’

CIMBT เปิดยุทธศาสตร์ปี65 มุ่งสู่ ‘ธนาคารอาเซียนดิจิทัล’

ซีไอเอ็มบีไทย เปิดยุทธศาสตร์ปี 65 ผ่านกลยุทธ์ Forward23+ ก้าวสุ่ธนาคารอาเซียนด้วยดิจิทัล พร้อมรุก 3 ธุรกิจหนุนการเติบโต รายย่อย รายใหญ่ ธุรกิจบริหารเงิน พร้อมตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โต 8% คุมหนี้เสียต่ำกว่า 3.7% ขณะที่ตั้งเป้ากำไรก่อนหักภาษีแตะ 3,5 พันล้าน

       นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า สำหรับเป้าหมายทางการเงินปีนี้ ธนาคารตั้งเป้า เติบโตด้านสินเชื่ออยู่ที่ราว 5-8%

.   ซึ่งมองว่าเป็นระดับที่เหมาะสม ภายใต้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยหรือจีดีพีที่ราว  3.8% บวกกับความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจโลก และภายใต้สถานการณ์โควิด-19 

     สำหรับ ในส่วนอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE)ตั้งเป้าอยู่ที่ 5.7-7% จากปี 2564 อยู่ที่ 5.7% ในส่วนต้นทุนทางการเงิน (Credit cost) พยายามรักษาอยู่ที่ 1.2-1.5% จากปีก่อนอยู่ที่ 1.5% และตั้งเป้ากำไรก่อนหักภาษี (PBT) อยู่ที่ 3,000-3,500 ล้านบาท

      ในส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)  สิ้นปี 64 อยู่ที่ 3.7% แม้จะไม่ใช่ระดับที่ต่ำ แต่มองว่ามีทิศทางปรับลดลงได้ต่อเนื่องในปี 2565 นี้ โดยธนาคารยังมีแผนบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม และมีแผนขายออกในจังหวะและราคาที่เหมาะสม ส่วนการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญคาดว่ายังคงเพียงพอในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่หากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงก็พร้อมรับมือและปรับตัว

     สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 จะขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์ Forward23+ จากเครือข่ายอาเซียนที่แข็งแกร่ง และดิจิทัลแพลตฟอร์ม ในการดำเนินธุรกิจหลักปีนี้เพื่อก้าวสู่ ธนาคารอาเซียนขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล

     โดยจุดโฟกัสหลักของธนาคารปีนี้ จะเห็นการเข้าไปรุกใน 3 ธุรกิจหลัก ทั้งในส่วนของ ธุรกิจรายย่อย (Consumer Banking) ธุรกิจรายใหญ่ (Wholesale Banking) และธุรกิจบริหารเงิน (Treasury and Markets)

      ในส่วนรายย่อย ธนาคารจะใช้ดิจิทัล ในการขับเคลื่อนการเติบโตหลัก ผ่านแอพพลิเคชั่น CIMB THAI Digital Banking ในการขยายฐานลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น จากทิศทางดิจิทัลที่เติบโตต่อเนื่อง ทั้งในส่วนการเปิดบัญชีเงินฝากออนไลน์ และการปล่อยสินเชื่อบนดิจิทัล

      รวมถึงการรุกในส่วนธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) โดยตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 10% ในปีนี้ ขณะที่สินทรัพย์ภายใต้บริการ(AUM) คาดเติบโต 2 เท่า

      สำหรับธุรกิจรายใหญ่ ปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่ออยู่ราว 33% ของสินเชื่อรวม โดยธนาคารยังคงเดินหน้าจุดแข็งคือการนำพาและช่วยลูกค้าในการออกไปหาโอกาสเติบโตในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง

      ในส่วนกลุ่มบริหารเงินธนาคารจะขยายธุรกิจ Treasury ที่จะเห็นการรุกต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มในส่วนของรายได้ใหม่ๆให้กับธนาคาร ทั้งในส่วน อัตราแลกเปลี่ยน การชำระเงิน การโอนเงินข้ามพรมหแดน ฯลฯ

      “การเติบโตปีนี้ ธนาคารให้ความสำคัญกับการเป็น Digital LED Bank โดยเฉพาะการขยายฐานลูกค้าใหม่ ให้ใช้บริการทางการเงินมากขึ้น ต่อยอดจากการเติบโตด้านดิจิทัลที่เติบโตสูงขึ้น โดยปีนี้การทำธุรกรรมออนไลน์ของธนาคารเติบโตได้กว่า 80%

      เช่นเดียวกันการรุกในส่วนดิจิทัลข้ามอาเซียน ปัจจุบันเรามีแพลตฟอร์มดิจิทัลในอาเซียนที่แข็งแกร่ง เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ที่เป็น Digital LED bank ดังนั้นหลังจากนี้จะเห็นการรุกในส่วนดิจิทัลในภูมิภาคมากขึ้น”