SISB ประมาณการ 4Q64F: จะเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดของปี

SISB ประมาณการ 4Q64F: จะเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดของปี

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ SISB ใน 4Q64 จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ เหลือ 32 ล้านบาท (-52.9% YoY, - 30.5% QoQ) เนื่องจาก i) มีการให้ส่วนลดค่าเล่าเรียน 5%-15% สำหรับเทอม 1 (สิงหาคม – ธันวาคม 2564)

และ ii) ไม่มีการขึ้นค่าเล่าเรียนสำหรับปีการศึกษาใหม่ (สิงหาคม 2564 – มิถุนายน 2565) และ iii) COVID-19 ยังระบาดอยู่ใน 4Q64 แม้ว่าผลกระทบจะไม่รุนแรงเท่าก่อนหน้านี้ ซึ่งเมื่ออิงตามประมาณการ 4Q64F ของเรา กำไรสุทธิในปี 2564F จะอยู่ที่ 214 ล้านบาท (+34.0% YoY) ดีกว่าประมาณการของเราประมาณ 7.1% เนื่องจากคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 4Q64 จะแข็งแกร่งอยู่ที่ 44.0% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564F ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 47.4% โดยเราคาดว่าอัตรากำไรที่แข็งแกร่งใน 4Q64 จะได้แรงหนุนจากโครงสร้างนักเรียนที่มีสัดส่วนของนักเรียนชั้นประถม และมัธยมเพิ่มขึ้น (ไม่เปลี่ยนแปลงจาก 78.6% ของนักเรียนทั้งหมดใน 3Q64) ในขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ารายได้ใน 4Q64 จะอยู่ที่ 252 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้ โดยรายได้ปี 2564 ต่ำกว่าประมาณการของเรา 3.0% เนื่องจากค่าเล่าเรียนลดลง

 

“Halving Project” จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

ตามโครงการ Halving Project (PROJECT H) SISB ได้เข้าทำสัญญาซื้อที่ดินกับ Supalai Public Company Limited (SPALI.BK/SPALI TB)* เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ซึ่งที่ดินที่ซื้อมาใหม่ประมาณ 24.5 ไร่ จะใช้ในการพัฒนา PROJECT H ซึ่งจะเป็นโรงเรียนอินเตอร์แห่งที่หกของเครือ SISB โดยที่ดินผืนนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เราเชื่อว่าธุรกิจกลุ่มนี้จะทำให้กำไรของ SISB มี upside ในขณะที่บริษัทมีแผนจะเริ่มเปิดการเรียนการสอนปีการศึกษา 2567/68 ซึ่งจะเริ่มในเดือนสิงหาคม 2567

 

 

 

แนวโน้มยังเป็นบวกเหมือนเดิม

ถึงแม้เราจะคาดว่ากำไรจะโตในอัตราที่ชะลอลงในช่วงปี 2564-65 แต่เรายังคงคาดว่ากำไรของบริษัทจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว เพราะผลกระทบจาก COVID-19 จะลดลง ถึงแม้ว่าผลประกอบการใน 1H65 จะยังคงถูกฉุดจากการที่ไม่ได้ขึ้นค่าเล่าเรียนสำหรับปีการศึกษาใหม่ (สิงหาคม 2564 - มิถุนายน 2565) แต่เราคาดว่าโมเมนตั้มจะยังคงเป็นบวกจากจำนวนนักเรียนระดับประถมและมัธยมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมองว่า อาจมี upside ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F ของเราที่ 234 ล้านบาท (+17.0% YoY).

 

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 10.70 บาท (อิงจาก P/E ปี FY65F ที่ 42.7x
เท่ากับค่าเฉลี่ยห้าปีย้อนหลัง)

 

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ และปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง