2 สมาคมคริปโทฯ พรุ่งนี้ตามนัด ถก ก.ล.ต.-สรรพากร 'เก็บภาษี-เปิดเฮียริ่ง'

2 สมาคมคริปโทฯ พรุ่งนี้ตามนัด  ถก ก.ล.ต.-สรรพากร 'เก็บภาษี-เปิดเฮียริ่ง'

TDO -สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลฯ เข้าหารือ ก.ล.ต.-กรมสรรพากร และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามนัดในวันพรุ่งนี้ (20ม.ค.) ถกประเด็นเก็บภาษีคริปโทฯ ต่อ และเดินหน้าเปิดเฮียริ่ง พร้อมยืนยันแนวทางแก้ปัญหาตามข้อเสนอเดิม เก็บภาษีควบคู่ไปพร้อมกับผลักดันให้เศรษฐกิจคริปโทฯโต

ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ ( 20 ม.ค.) ทางสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย  หรือ TDO  ยังคงมีนัดหารือกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และก.ล.ต. รวมถึงหน่วยงานและผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล อาทิ สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย โดยมีวาระสำคัญหารือเรื่องการเก็บภาษีจากสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นเพื่อรวบรวมความเห็นสำหรับทางกรมสรรพากร นำเสนอทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต่อไป ในระยะเวลาที่กำหนดภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้ 

 

 

  

นายพีรเดช ตันเรืองพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัพบิต เอ็กซ์เชนจ์ (ประเทศไทย) จำกัด (Upbit Thailand)​และ ในฐานะประธานสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) กล่าวว่า สมาคมฯ ยังคงยึด 3 แนวทางหลักในการนำเสนอมาโดยตลอด รวมถึงที่ได้ชี้แจ้งที่ประชุมกรรมาธิการ การเงิน การคลังในวันนี้ (19 ม.ค.) ดังนี้ 

1. กฎหมายภาษี ต้องสนับสนุนให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตไปพร้อมกับการสร้างรายได้ภาษีที่เพิ่มขึ้นให้กับภาครัฐ  การเก็บภาษีในช่วงเวลาที่ตลาดไม่เอื้ออำนวย จะทำให้นักลงทุนในไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศที่ไม่อยู่ในการควบคุมของกฎหมายไทย ผลที่ตามมาวอลุ่มในตลาดลดลง ทำให้ภาษีที่ควรจะจัดเก็บได้ลดลงตามไปด้วย

2.สมาคมฯ TDO พร้อมร่วมมือกับกรมสรรพากรอย่างจริงจัง  เพื่อทำการศึกการออกกฎหมายภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล และเป็นหลักเกณฑ์ต่างๆ นอกจากการกำกับดูแลแล้ว ยังต้องเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยเติบโตได้ด้วย   ซึ่งสมาชิกของสมาคมฯ นับว่าเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเทคโนโลยีบ็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล  

3. เพื่อให้การศึกษาร่วมกับอย่างรอบคอบ มีแนวทางที่ทุกฝ่ายปฏิบัติได้จริง และได้เตรียมตัว  เห็นว่า ขอให้เลื่อนการเก็บภาษีสินทรัพย์ดิจิทัลออกก่อน 1-2 ปี 

อย่างไรก็ตามทางสมาคมฯ เดินหน้าผลักดันข้อเสนอข้างต้น ผ่านทางหน่วยงานกำกับดูแล คือ ก.ล.ต.เพื่อนำเสนอให้กรมสรรพากรและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาต่อไป

สำหรับสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 โดยมีสมาชิกเริ่มแรกก่อตั้ง 8 ราย เช่น บริษัท อัพบิต เอ็กซ์เชนจ์ (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด,บริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด และบริษัท บิทาซซ่า จำกัด เป็นต้น ปัจจุบัน มีสมาชิกเพิ่มมากกว่า 8 รายแล้ว

สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จับมือสรรพากร

ทำแบบสอบถามเตรียมเปิดเฮียริ่งเก็บภาษีคริปโท

นายศุภกฤษฏ์ บุญสาตร์  นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เปิดเผยว่า  สมาคมฯ เสนอทางกรมสรรพากร  จัดตั้งคณะกรรมการทำงานร่วมกัน  ประกอบไปด้วย กรมสรรพากรและหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง อย่างสมาคมฯและสมาคมการค้าผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เพื่อ ร่วมกันศึกษาและกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับภาษีที่สามารถนำไปใช้ได้จริง

ล่าสุด สมาคมฯ ได้ร่วมกับกรมสรรพากร  เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ  ให้ครอบคลุมคนทุกกลุ่มที่มีส่วนได้ส่วนเสีย  คาดว่าแบบสอบถามจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้    

และจะมีการจัดประชุมใหญ่วันที่ 20 ม.ค.นี้ โดยมีก.ล.ต. เป็นเจ้าภาพ เชิญผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดที่ได้รับไลเซน และสมาคมฯ ทั้ง 2 แห่ง รวมถึงกรมสรรพากร มาหารือร่วมกัน  ซึ่งตามกระบวนการของกรมสรรพากรแล้วต้องได้ข้อสรุปเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนม.ค. นี้ เพื่อนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต่อไป

ทั้งนี้ สมาคมฯ ยังคงเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา 3  ข้อ คือ 1. “ทำให้ชัด” ลงในรายละเอียดของปัญหา ในข้อปฏิบัติแต่ละตัว ไล่ทุกข้อให้ละเอียดและชัดเจน  2. “ผ่อนปรน”  ในบางรายละเอียด ทำให้ยังเก็บภาษีได้แต่ไม่ได้เป็นภาระกับผู้เสียภาษีมากจนเกินไป 3.”มองอนาคต” สรุปเรื่องแนวทางการเก็บภาษีในอนาคต เพื่อให้ง่ายต่อการเสียภาษีและมีรายได้สม่ำเสมอ

“การแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน คือการยื่นภาษีปี 64 ที่ต้องยื่นภายในเดือนมี.ค.นี้ กรมสรรพากรต้องทำแนวทางให้ชัดเจนก่อน  และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะผ่อนปรนการเก็บภาษีสินทรัพย์ดิจิทัลไปก่อน 1-2 ปี ซึ่งเราเห็นด้วยกับแนวทางที่ TDO เสนอ  และการรวบรวมข้อเสนอแนะข้อคิดเห็นจะทำให้เรารู้ว่าแนวทางการเก็บภาษีในอนาคตควรจะเป็นอย่างไร ตอนนี้เริ่มมีหลายคนกังวลเรื่อง VAT เพิ่มเติมไปอีก ขอชี้แจ้งว่าขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในการเก็บภาษีดังกล่าว  ขอให้ใจเย็นและขอให้สบายใจ เพราะขณะนี้ทางภาครัฐและเอกชน ได้เข้ามาหารือ ทำงานร่วมกันเพื่อหาแนวทางดำเนิน ภายใต้กรอบของกฎหมาย และทุกคนยังยอมรับกับการตัดสินใจรั้งนี้ “

นายศุภกฤษฏ์ กล่าวย้ำว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับภาษีคริปโทฯ ครั้งนี้ จะเป็นตัวกำหนดทิศทางที่สำคัญของเศรษฐกิจคริปโทฯ ของไทยไปถึงในอีก  10 ปีข้างหน้า เติบโตไปในทิศทางที่ควรจะเป็น

ดังนั้น เราจึงไม่อาจทำ “ตามใจ”  แต่ต้องทำตาม “สิ่งที่ควรจะเป็น”  อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ภาครัฐ เข้ามาเปิดรับฟังความเห็นของคนในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอาจจะมองเห็นถึงการปรับเปลี่ยนสิ่งที่มีเป็นอยู่ เช่น กฎหมาย และหลักเกณฑ์กำกับต่างๆ  ให้เข้ากับสถานการณ์ความเป็นจริง  นับว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี