Non-bank Sector จะฟื้นตัวอย่างช้า ๆ (18 ม.ค. 65)

Non-bank Sector จะฟื้นตัวอย่างช้า ๆ (18 ม.ค. 65)

เราคาดว่ากำไรรวมของกลุ่ม non-bank จะเพิ่มขึ้น 7% QoQ และ 4% YoY ใน 4Q64F และ +11% ในปี 2564 สำหรับผลการดำเนินงานใน 4Q64F

เราคาดว่าสินเชื่อที่ฟื้นตัวขึ้นจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนกำไร โดยเราคาดว่า MTC จะโตแรงสุดที่ 6% QoQ และ 24% YoY ในขณะที่ yield ไม่ถูกกดดันแล้ว ในทำนองเดียวกัน เราคาดว่า SINGER จะสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อได้อย่างแข็งแกร่งจากที่ขยายตัวเพียงเล็กน้อยใน 3Q64 โดยที่ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าฟื้นตัวขึ้น ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมที่ฟื้นตัวขึ้นจะช่วยหนุนกำไรของ KTC, SAWAD และ TIDLOR

 

มีการบริหารจัดการ NPL และคงระดับ credit cost เอาไว้เท่าเดิม

จากกฎเกณฑ์ของทางการที่เข้มงวดมากขึ้นในช่วงที่ COVID ระบาด และมีการลดเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง ในขณะที่มีการยกเว้นค่าธรรมเนียมในการติดตามหนี้ บริษัท non-bank บางแห่งจึงปรับท่าทีเป็นระมัดระวัง และขยายสินเชื่อใหม่แบบเลือกลูกค้ามากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการกันสำรอง และกลับรายการสำรองหนี้เสียที่มีอยู่มาเป็นรายได้เพื่อสร้างสมดุลให้ผลประกอบการ ซึ่งเห็นได้ชัดในกรณีของ KTC, SAWAD และ SINGER ในขณะเดียวกัน MTC ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ในขณะที่สำรองของ TIDLOR ยังทรงตัวในระดับเดิม ทั้งนี้ เนื่องจาก NPL ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ เราจึงคาดว่า NPL จะทรงตัว QoQ ใน 4Q64 แต่มีแนวโน้มลดลงในปี 2564

 

 

 

 

หา platform ใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตแบบ S-curve รอบใหม่

บริษัทนอนแบงก์ หลายแห่งเริ่มปรับกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อลดความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ และการ
แข่งขัน รวมถึงสร้างการเติบโตแบบ S-curve รอบใหม่ในภาวะเศรษฐกิจแบบ new normal โดย KTC
กำลังสร้างแพลตฟอร์มใหม่เพื่อขยายสินเชื่อจำนำทะเบียนโดยอาศัยเครือขายสาขา และฐานลูกค้าของ
KTB พร้อมทั้งสร้างแพลตฟอร์มใหม่ MAAI By KTC เพื่อบริหารระบบคะแนนสะสมร่วมกับพันธมิตร
ในการเพิ่มยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ในขณะเดียวกัน SINGER ได้ผนึกพันธมิตรกับ BTS เพื่อขยาย
platform ธุรกิจ e-commerce ส่วน MTC และ SAWAD ต่างก็พยายามขยายตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียน
และรุกหนักมากขึ้นในธุรกิจลิสซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ ในขณะที่ TIDLOR หันไปรุกหนักทางด้านสินเชื่อ
จำนำทะเบียนรถบรรทุก

 

Valuation & Action

เมื่อพิจารณาจากศักยภาพในการเติบโต, ความสามารถในการแข่งขัน, ความสามารถในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์ทางการแข่งขัน และ มูลค่าหุ้นแล้ว เรามองว่ากลุ่ม non-back น่าจะซื้อขายอยู่ใน
กรอบแคบที่ระดับราคาต่ำโดยคิดเป็น P/E ที่ <20x เราชอบ Krungthai Card (KTC.BK/KTC TB)* มากกว่าหุ้นอื่นในกลุ่มจากศักยภาพในการเติบโตจากธุรกิจใหม่ที่ทำร่วมกับ Krung Thai Bank (KTB.BK/KTB TB)*, SAWAD ในแง่ของการเติบโตร่วมกับธนาคารออมสิน (GSB), และ SINGER จากสินเชื่อที่เติบโตในอัตราสูง และการเพิ่มธุรกิจ e-commerce business รวมถึงการผนึกพันธมิตรกับเครือ BTS

 

Risks

ยีลด์สินเชื่อกดดัน, การแข่งขันจากผู้เล่นรายใหม่, กฎระเบียบเข้มงวดมากขึ้น