กมธ.จ่อถกภาษีหุ้น-คริปโท “บิทคับ”เสนอเลื่อนเก็บ 2 ปี

กมธ.จ่อถกภาษีหุ้น-คริปโท “บิทคับ”เสนอเลื่อนเก็บ 2 ปี

กมธ.การเงิน-การคลัง เตรียมเรียก "สรรพากร-หน่วยงานภาคตลาดทุน-คริปโทฯ" ถกทางออกเก็บภาษีขายหุ้น-คริปโท 19 ม.ค.นี้ ชง รมว.คลัง ด้านสมาคมฟินเทค หวังรัฐทบวนนำรายการขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ขาดทุนมาหักรายการกำไรคำนวณภาษี "จิรายุส"เสนอเลื่อนเก็บ2 ปี หวังกฎหมายมีความชัดเจน

วานนี้ (16 ม.ค.) สมาคมฟินเทคประเทศไทย และ สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ร่วมหารือและยื่นหนังสือให้ นางสาววทันยา วงษ์โอภาสี โฆษกคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อหาทางออกกรณีที่รัฐบาลโดย กรมสรรพากร จะมีการเก็บภาษีกำไรจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี่ รวมทั้งการจัดเก็บภาษีเทรดหุ้นด้วย

นางสาววทันยา เปิดเผยว่า นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือเสนอความเห็นเกี่ยวกับการที่กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีคริป โทเคอเรนซี โดยหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ของกำไรจากการขาย ซึ่งส่วนตัวจะนำหนังสือดังกล่าวเพื่อนำไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงินต่อไป

กมธ.จ่อถกภาษีหุ้น-คริปโท “บิทคับ”เสนอเลื่อนเก็บ 2 ปี

ทั้งนี้ทางคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน จะนัดหารือทั้งเรื่องภาษีคริปโทเคอเรนซี และภาษีขายหุ้น ( Financial Transaction Tax) ในอัตรา 0.1% ของธุรกรรมการขายที่เกิน 1 ล้านบาทต่อเดือน พร้อมกัน ในวันพุธที่ 19 ม.ค.2565 โดยเชิญทางกรมสรรพากร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย (TFA) และสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยฯลฯ มาให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าว

โดยทาง 2 ภาคธุรกิจ คือ ภาคตลาดทุน และภาคธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จะมีข้อมูลเรื่องผลกระทบการจัดเก็บภาษี ว่าจะกระทบแต่ละภาคธุรกิจอย่างไร เบื้องต้น ในส่วนภาคตลาดทุนนั้น ได้มีการทำผลศึกษาว่าหากเก็บภาษีTransaction Tax นั้น เบื้องต้นจะทำให้วอลุ่มเทรดลดลง 30% หรืออยู่ที่ระดับ 5.4 หมื่นล้านบาท ฯลฯ และในภาคธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลก็จะมีการให้ข้อมูลถึงผลกระทบและข้อเสนอต่างๆ  และทางสรรพากร จะให้ข้อมูลเหตุผลการจัดเก็บ

กมธ.จ่อถกภาษีหุ้น-คริปโท “บิทคับ”เสนอเลื่อนเก็บ 2 ปี

ทำข้อเสนอส่ง รมว.คลังพิจารณา

“เดิมนั้นทาง คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน จะมีนัดเชิญสรรพากร และภาคตลาดทุน คือ เฟทโก้ ตลาดหลักทรัพย์ มาให้ข้อมูลการเก็บภาษีขายหุ้น หรือ  Transaction Tax ในวันที่  5 ม.ค. 2565 แต่ด้วยสภาฯยังไม่เปิดจึงเลื่อนมา และพอมีประเด็นเรื่องการเก็บภาษีคริปโท คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน จึงนัดประชุม 2 เรื่องพร้อมกันในวันพุธที่จะถึงนี้ ”

อย่างไรก็ตามเมื่อคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน ได้รับฟังข้อมูล จากหน่วยงานภาครัฐ คือ กรมสรรพากร และ ทางภาคธุรกิจไม่ว่าจะเป็นตลาดทุน และภาคสินทรัพย์ดิจิทัลแล้ว ก็จะนำมาหารือในคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน อีกครั้ง เพื่ออกเป็นความเห็นของ ทางคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน ในการนำเสนอต่อกระทรวงการคลัง หรือ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง(รมว.คลัง)ต่อไป กมธ.จ่อถกภาษีหุ้น-คริปโท “บิทคับ”เสนอเลื่อนเก็บ 2 ปี

ฟินเทคเสนอทบทวนใหม่

 นายชลเดช เขมะรัตนา นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย กล่าวว่า ในเรื่องการเก็บภาษีคริปโทฯนั้น อยากให้ภาครัฐมีการทบทวน ต้องการให้นำรายการขายที่ขาดทุนมาหักลบกับรายการที่มีกำไร แล้วค่อยมาคำนวณการจ่ายภาษี และการหักภาษี ณ ที่จ่าย นั้น ขอให้สามารถขอคืนภาษีภายหลังได้ เหมือนกับภาษีเงินปันผล ที่หัก ณ ที่จ่ายไปก่อน และมาขอคืนภาษีได้ในภายหลัง

กมธ.จ่อถกภาษีหุ้น-คริปโท “บิทคับ”เสนอเลื่อนเก็บ 2 ปี

“เราอยากให้สรรพากร มีการทบทวนในเรื่องการเก็บภาษี ควรที่จะนำรายการขายที่มีผลขาดทุนมาหักออกจากรายการขายที่มีกำไรด้วย มองว่าไม่ควรเก็บเฉพาะรายการที่มีกำไรเท่านั้น และขอให้สามารถยื่นขอคืนภาษี ได้เหมือนกับภาษีเงินปันผลในปัจจุบัน”

นายศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทางสรรพากร อยู่ระหว่างการจัดทำเอกสาร เพื่อจะเปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง)เรื่องการจัดเก็บภาษีคริปโทฯ โดยทางสมาคมฯอยู่ระหว่างรอทางสรรพากร เพื่อที่จะนำเอกสารดังกล่าว กระจายให้กับผู้ร่วมในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลได้แสดงความคิดเห็น เพราะมองว่า หากให้บุคคลที่ไม่ได้อยู่ในวงการมาให้ความเห็นนั้น เขาอาจจะไม่มีความรู้ในเรื่องธุรกิจนี้ ความเห็นที่ได้อาจจะไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ดังกล่าว 

ชี้ทรานแซคชั่นเก็บง่ายกว่า

 ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าหากมีการจัดเก็บภาษีคริปโทฯนั้นวิธีการจัดเก็บที่สามารถทำได้ง่าย คือ เก็บภาษีจาก  Transaction Tax ซึ่งจะเป็นภาระแก่นักลงทุน แต่ภาระดังกล่าวนั้น ยังมีผลทำให้ Exchange(กระดานเทรดคริปโทฯ) ไม่สามารถขึ้นค่าธรรมเนียมการซื้อขายได้ อันนี้ถือว่ายังมีส่วนดีกับนักลงทุน 

 อย่างไรก็ตามหากกฎหมาย ไม่มีความชัดเจนออกมาทันในเดือนมี.ค. นี้ส่วนตัวมองว่าภาครัฐควรที่จะมีการเลื่อนเก็บภาษีออกไปก่อน ส่วนจะเก็บเมื่อไร ขึ้นอยู่กับการพิจารณาจัดเก็บในระยะเวลาที่เหมาะสม 

กมธ.จ่อถกภาษีหุ้น-คริปโท “บิทคับ”เสนอเลื่อนเก็บ 2 ปี

“บิทคัพ”ชงเลื่อน 2 ปี

นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา Group CEO ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับแคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า  ส่วนตัวมองว่าหากมีการเก็บภาษีคริปโทฯนั้นจะส่งผลกระทบทำให้นักลงทุนไทยหันไปซื้อขาย (เทรด)คริปโทฯในต่างประเทศแทน  ทำให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหรรมคริปโทฯในประเทศไทย เพราะปัจจุบันอุตสาหรรมคริปโทฯในประเทศไทย อยู่ในช่วงการเติบโต  ซึ่งในส่วนของ บิทคับ ปัจจุบันมีนักลงทุนเปิดบัญชีซื้อขาย 3.4 ล้านบัญชี ซึ่งถือว่าเติบโตที่สูง ซึ่งสูงกว่านักลงทุนในภาคตลาดทุน

กมธ.จ่อถกภาษีหุ้น-คริปโท “บิทคับ”เสนอเลื่อนเก็บ 2 ปี

ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าในเรื่องของกฎหมายนั้น อาจจะต้องมีการจำกัดความหรือ ตีความหมายให้เป็นปัจจุบัน เพราะกฎหมายที่ออกมานั้น เป็นกฎหมายเก่า ซึ่งมองว่าสินทรัพย์ดิจิทัล ควรตีความหรือจำกัดความเป็นหลักทรัพย์ หรือกับการลงทุนในตลาดทุน ที่ควรได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีส่วนต่างกำไรจากปัจจุบันที่เป็นสินทรัพย์   

สำหรับบริษัทไหนซึ่งไม่ได้มีใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)นั้น จำกัดความเป็นบริษัทนอกตลาด ควรที่จะจัดเก็บภาษีที่สูงๆ เพื่อเป็นการให้ผู้ประกอบการดังกล่าวเข้ามาอยู่ในระบบ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาครัฐ และอุตสาหกรรม

 “การจัดเก็บภาษี หัก ณ ที่จ่าย ในส่วนที่มีกำไรนั้นในทางปฏิบัติ ส่วนตัวมองว่าทำได้ยาก ในเรื่องของการจัดเก็บข้อมูล และปัจจุบัน  ตลาดเทรดคริปโทฯ มีหลายตลาด ไม่เหมือนกับตลาดทุน ที่มีตลาดหลักทรัพย์ฯเป็น exchange ที่เดียว”

กมธ.จ่อถกภาษีหุ้น-คริปโท “บิทคับ”เสนอเลื่อนเก็บ 2 ปี

นายจิรายุส กล่าวว่า จากปัจจุบันที่กฎหมายนั้นที่ยังมีความไม่ชัดเจน นั้นส่วนตัวเสนอให้มีการเลื่อนการจัดเก็บภาษีคริปโทฯไปก่อน 2 ปี เพื่อที่จะดำเนินการข้อกฎหมายต่างๆให้เป็นปัจจุบันมากขึ้น 

ทั้งนี้หากมีการจัดเก็บภาษีคริปโทฯส่วนตัวมองว่าควรที่จะเก็บเป็น Transaction Tax นั้นจะมีความเหมาะสมซึ่งภาครัฐจะต้องเลือกว่าจะเก็บภาษี Transaction Tax กับนักลงทุน หรือ จะให้ทาง Exchange  เป็นผู้จ่ายแทนนักลงทุน ซึ่งทั้ง 2 แนวทางมีผลกระทบที่ต่างกัน ซึ่งหาก Transaction Tax กับนักลงทุน ก็จะส่งผลให้วอลุ่มการซื้อขายลดลง นักลงทุนหันไปซื้อขายใต้ดินในต่างประเทศ และหากให้ exchange เป็นผู้จ่ายแทนนักลงทุนนั้น จะทำให้ exchange ไม่มีเงินมาใช้ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

“บิทคับ เอง อยู่ระหว่างที่นัดเข้าพบกับทางสรรพากร  เพราะเราในฐานะที่เป็น  exchange คริปโท ที่มีมาร์เก็ตแชร์ อันดับ1 ที่ 98% มีนักลงทุนเปิดบัญชีสูงถึง 3.4 ล้านบัญชี ซึ่งถือว่าเติบโตสูง เท่ากับนักลงทุนในตลาดทุน ที่เปิดให้บริการมากว่า 40 ปีก็อยากที่จะเข้าไปให้ความเห็น ในฐานะที่เราเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล”