"โอมิครอน" ทุบยอดโรงแรมเชียงใหม่ ชงเร่ง "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4" ฟื้นเดินทาง

"โอมิครอน" ทุบยอดโรงแรมเชียงใหม่ ชงเร่ง "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4"  ฟื้นเดินทาง

“โอมิครอน” ทุบความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวไทย พ่นพิษยอดจองโรงแรม “เชียงใหม่” นิ่งสนิท ส.โรงแรมไทยภาคเหนือตอนบนคาดอัตราเข้าพักเดือน ม.ค.ร่วงเหลือ 20-25% ทั้งที่ยังไฮซีซั่น หวังภาครัฐเร่งกดปุ่มเริ่ม “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4” กระตุ้นเดินทาง “ททท.” เผยน่าจะคิกออฟได้ ก.พ.65

นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือตอนบน) กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในประเทศพุ่งสูงระดับ 8,000 คนวานนี้ (13 ม.ค.) ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ เดือน ม.ค.2565 หลังช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่ายอดการจองห้องพักโรงแรมใน จ.เชียงใหม่ ยังนิ่งสนิท ไม่มีการจองเข้ามาเพิ่ม ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงไฮซีซั่นของภาคเหนือ และหวังได้แรงส่งที่ดีจากกระแสการท่องเที่ยวของคนไทยเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมาซึ่งมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 60% จากผู้ประกอบการโรงแรมเชียงใหม่ที่กลับมาเปิดให้บริการแล้ว 60-70% เฉพาะคืนเคาท์ดาวน์มีอัตราการเข้าพักสูงถึง 80-85% เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย.ที่มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 55-58%

“สถานการณ์โอมิครอนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น (Sentiment) ของนักท่องเที่ยวไทยซึ่งเป็นตลาดหลักคิดเป็นสัดส่วนกว่า 90% ของภาคท่องเที่ยวเชียงใหม่อย่างมาก เกิดการชะลอการเดินทาง ฉุดอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมในเชียงใหม่เดือน ม.ค.ซึ่งเดิมคาดว่าจะมีไม่น้อยกว่า 50% โดยมาจากยอดจองปัจจุบันในมือ 20% และยอดจองที่จะเข้ามาใหม่อีก 30% เหลืออัตราเข้าพักจริงเฉลี่ยที่ 20-25% เท่านั้น เพราะไม่มียอดจองใหม่เข้ามาเติม”

สมาคมฯจึงต้องการให้ภาครัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ เช่น การประกาศกำหนดเริ่มโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4” ภายในเดือน ม.ค.นี้ เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวไทยได้เตรียมแผนเดินทาง และเห็นกระแสการเดินทางชัดตั้งแต่เดือน ก.พ.นี้เป็นต้นไป รวมถึงมาตรการอื่นๆ เช่น กระตุ้นการจัดประชุมสัมมนา หากออกมาตรการช้า อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศรวมถึง จ.เชียงใหม่ที่ยังพึ่งพิงนักท่องเที่ยวไทยเป็นหลัก ทำให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยเดือน ก.พ.-มี.ค.2565 มีแนวโน้มไม่ถึง 10%

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า รับทราบจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่าจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 ม.ค.นี้ เกี่ยวกับการดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ซึ่งน่าจะเริ่มได้ในเดือน ก.พ.นี้ โดยหวังว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโอมิครอนจะดีขึ้นแล้ว

“สถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวไทยหลังเทศกาลปีใหม่ อาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโอมิครอน ประกอบกับทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประกาศยกระดับเตือนภัยโควิด-19 เป็นระดับ 4 ทั้งนี้ได้มีการเคลียร์ประเด็นเรื่องภาครัฐไม่ได้ห้ามไม่ให้มีการเดินทางไปเรียบร้อยแล้ว แต่นักท่องเที่ยวบางคนอาจยังกังวล และให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการควบคุมโอมิครอน จึงทำให้ชะลอการเดินทางไปบ้าง อย่างไรก็ตาม ททท.ยังคงเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งตลาดคนไทยและต่างชาติ สอดรับกับปีส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย 2565 หรือ Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters”

ด้านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดการณ์ว่าประเทศไทยปี 2565 จะมีรายได้รวมจากการท่องเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 1.3-1.8 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติระหว่าง 5-15 ล้านคน สร้างรายได้ราว 8 แสนล้านบาท โดยประเมินว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเหมือนปกติทั่วไป มีนักท่องเที่ยวจากยุโรปและสหรัฐเป็นหลัก น่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 5 ล้านคน ถ้ามีอินเดียเพิ่มเข้ามาก็จะได้ถึง 7 ล้านคน และหากจีนเปิดให้คนออกนอกประเทศได้หลังกลางปีนี้เป็นต้นไปก็น่าจะมีประมาณ 9 ล้านคน นอกจากนี้หากมีการเปิดชายแดนให้เที่ยวได้ ซึ่งจะมี เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย น่าจะได้ถึง 15 ล้านคน

ส่วนตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวไทยอยู่ที่ 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ราว 7 แสนล้าน ซึ่งในปีนี้ภาครัฐยังเดินหน้าโครงการกระตุ้นไทยเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้แม้จะมีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน แต่การคาดการณ์ท่องเที่ยวในปี 2565 จะยังคงยืนเป้าหมายนี้ไว้สำหรับการทำงานต่อไป