ERW ประมาณการ 4Q64F: เกาะกระแสการฟื้นตัวของท่องเที่ยวไทย

ERW ประมาณการ 4Q64F: เกาะกระแสการฟื้นตัวของท่องเที่ยวไทย

เราคาดว่า ERW จะรายงานผลขาดทุนปกติที่ 300 ล้านบาทใน 4Q64F (+13% YoY, +52% QoQ) โดยคาดผลประกอบการที่ดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ มาจากการฟื้นตัวของท่องเที่ยวของไทย

ประกอบกับความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นของการเดินทางภายในประเทศ ซึ่งส่งผลให้ i) RevPar (Bt) ฟื้นตัวแรง 184% QoQ เป็น 398 บาท และ ii) EBIT margin ดีขึ้นมาอยู่ที่ -32% (จาก -209% ใน 3Q64) เนื่องจากธุรกิจสะดุดน้อยลง

 

คาด RevPar ดีดตัวแรง 184% QoQ

เราคาด RevPar (Bt) รวมใน 4Q64F จะเพิ่มขึ้นเป็น 398 บาท (+2% YoY, +184% QoQ) ผลักดันจาก i)
occupancy rate ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 42% (จาก 18% ใน 3Q64) และ ii) ARR ที่ 1,104 บาท (+18% QoQ)
โดยเราคาดว่าผลการดำเนินงานของโรงแรมทุกกลุ่มของบริษัทจะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง QoQ ในขณะเดียวกัน Hop Inn น่าจะยังคง outperform โดยเราคาดว่า occupancy ใน 4Q64F จะอยู่ที่ 60% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโรงแรมกลุ่มอื่น ๆ ของบริษัท ที่ 27%

 

โมเมนตั้มของกำไรอาจจะสะดุดชั่วคราวใน 1Q65F

เราคาดว่าโมเมนตั้มกำไรของ ERW อาจสะดุดลงชั่วคราวใน 1Q65F หลังจากที่การท่องเที่ยวในประเทศเสียโมเมนตั้มไปเพราะสายพันธุ์ Omicron อย่างไรก็ตาม เรายังคงคาดว่าผลกระทบด้านลบจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เนื่องจาก i) การเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยลดความเสี่ยงด้าน downside ในระยะยาว (Figure 10) และ ii) ผู้คนเริ่มคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตกับ COVID-19 แล้ว ทำให้ภาวะการท่องเที่ยวมีภูมิต้านทานต่อปัจจัยลบได้ดีขึ้น

 

 

ปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2565F/2566F ลง 91%/19%

เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2565F ลง 91% และปี 2566F ลง 19% เพื่อสะท้อนสมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติใหม่ที่ 8 ล้านคนในปี 2565F (จากเดิม 12 ล้านคน) และ 25 ล้านคนในปี 2566F (จากเดิม 35 ล้านคน)

 

Valuation & Action

เนื่องจากเราคาดว่าการท่องเที่ยวของไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีตั้งแต่ 2Q65F เป็นต้นไป เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 3.70 บาท (จากเดิมที่ 3.80 บาท) อิงจาก EV/EBITDA ปี 2566F ที่ 15.5x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว +1.0 S.D. ทั้งนี้ เราได้ทำการ discount ราคาเป้าหมายปี 2566F กลับมาหนึ่งปี โดยใช้ WACC ที่ 9.7%

 

Risks

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าที่คาดไว้