ขสมก.ลุยแผนหารายได้ ปรับโฉมอู่เชิงพาณิชย์

ขสมก.ลุยแผนหารายได้  ปรับโฉมอู่เชิงพาณิชย์

ขสมก.ปรับแผนพัฒนาอู่รถเมล์เชิงพาณิชย์คาด6 เดือนแล้วเสร็จ เตรียมเปิดประมูลหาเอกชนร่วมลงทุนปีนี้ นำร่องอู่บางเขน - มีนบุรี มูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านบาท

นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนนำที่ดิน ขสมก.ไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ โดยระบุว่า การพัฒนาที่ดินอู่จอดรถเมล์ในรูปแบบโครงการผสมผสาน (มิกซ์ยูส) ซึ่ง ขสมก.จะเปิดประกวดราคาหาเอกชนร่วมลงทุน ถือเป็นหนึ่งในแผนฟื้นฟูองค์กรของ ขสมก. เพื่อหารายได้นอกเหนือจากการเดินรถ

อย่างไรก็ดี ตนทราบว่าแผนดังกล่าวมีการศึกษามาเป็นเวลานานแล้ว แต่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะนี้ได้นำผลการศึกษาแผนพัฒนาอู่จอดรถเมล์ทั้งหมดมาศึกษาใหม่ จากเดิมแผนจะมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ส่วนใหญ่เป็นโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรมและพื้นที่เพื่อการค้า แต่ขณะนี้เล็งเห็นว่าพื้นที่อู่รถเมล์เป็นพื้นที่กว้าง หากปรับแผนพัฒนาพื้นที่สีเขียว และลานกิจกรรมให้มากขึ้น ลดโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ลง จะเป็นประโยชน์มากกว่า

ทั้งนี้ ขสมก.จึงอยู่ระหว่างปรับแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เน้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว สวยสาธารณะและลานกิจกรรม เพื่อทำให้ประชาชนและผู้โดยสารที่ใช้บริการรถโดยสาร ขสมก.ได้ใช้ประโยชน์จากอู่จอดรถให้มากขึ้น โดยเบื้องต้นคาดว่าจะ ทบทวนผลการศึกษาโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ทำให้ในปี 2565 จะเห็น ขสมก.เริ่มเปิดประกวดราคาจัดหาเอกชนร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์

“แผนเดิมอาจจะเห็นว่าการเพิ่มรายได้จากพื้นที่การค้าเป็นส่วนสำคัญ แต่ส่วนตัวผมมองว่าหากเพิ่มพื้นที่สีเขียว และลานกิจกรรม จะทำให้ประชาชนมาใช้ประโยชน์กับพื้นที่นี้ เกิดการเดินทางด้วยรถโดยสาร ขสมก.มากขึ้น”

รายงานข่าวจาก ขสมก. เผยว่า แผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ของ ขสมก. ก่อนหน้านี้มีการศึกษานำพื้นที่อู่จอดรถหลายแห่งในกรุงเทพฯ มาเตรียมเปิดประมูลให้เอกชนร่วมลงทุน อาทิ อู่บางเขน ที่มีพื้นที่ 11 ไร่ อยู่ติดกับรถไฟฟ้า และอู่มีนบุรี ที่มีพื้นที่ 10 ไร่ เป็นย่านชุมชนที่มีการเดินทางผ่านหนาแน่น จึงถือเป็นอู่จอดรถที่มีศักยภาพ คาดว่าจะจูงใจเอกชนร่วมลงทุน

สำหรับผลการศึกษาก่อนหน้านี้ ขสมก.มีเป้าหมายพัฒนาอู่จอดรถทั้งสองแห่งในลักษณะโครงการมิกซ์ยูส โดย อู่บางเขน ขสมก.จะเป็นผู้ลงทุนที่ดิน ส่วนเอกชนจะลงทุนก่อสร้างอาคารทั้งหมด ให้สัมปทานเช่าพัฒนาที่ดินรวม 30 ปีมูลค่าการลงทุนโครงการ 1,687 ล้านบาท

ส่วน อู่มีนบุรี ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ ขสมก.มีแนวคิดจะพัฒนาเป็นตลาดและร้านค้า รวมทั้งการพัฒนาเป็นตลาดและร้านอาหารริมน้ำบริเวณคลองสามวา โดยจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนภายใต้สัมปทานเช่าระยะ 30 ปีคาดว่าจะมีมูลค่าลงทุนราว 1,386.88 ล้านบาท