ลุ้นขึ้นต่อ (ประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2564)

ลุ้นขึ้นต่อ (ประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2564)

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวรีบาวนด์เล็กน้อย โดยในช่วงเช้าดัชนี บวกถึง 10 จุด แต่ลดช่วงบวกในช่วงบ่ายเหลือ +5 จุด ปัจจัยกดดันยังมาจากการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่เร่งตัวขึ้น

ส่วนการประชุมกนง. มีมติคงดอกเบี้ย คาด GDP ปี 64 โต 0.9% ก่อนโต 3.4% และ 4.7% ปี 65-66 ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,626.79 จุด +4.54 จุด +0.28% มูลค่าการซื้อขาย 60,938 ลบ. ต่างชาติ +497.21 ลบ. TFEX +2,990 สัญญา ตราสารหนี้ +1,864.93 ลบ.

 

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 261.19 จุด + 0.74% ขานรับข้อมูลศก.ที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลข GDP ใน 3Q64 และผลการวิจัยครั้งล่าสุดที่ระบุว่าความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมีน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา
+สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.64 ดอลลาร์ +2.3% ปิดที่ 72.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
+ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐน่าจะยังคงขยายตัวในปีหน้า แม้เผชิญกับการกลับมาระบาดหนักของไวรัสกลายพันธุ์
+สหรัฐเปิดเผยว่ายอดขายบ้านมือสองปรับตัวขึ้น 1.9%MoM สู่ระดับ 6.46 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน แต่น้อยกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 6.52 ล้านยูนิต
+กนง.มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยตามคาดเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของศก. คาด GDP ปี 64 ขยายตัว 0.9% เพิ่มขึ้นจากเดิม 0.7% และ 3.4% ในปี 65 ลดลงจากเดิมคาด 3.9% ประเมินการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron จะกระทบศก.ช่วงแรกปี 65 เชื่อว่าศก.ฟื้นกลับสู่ก่อนโควิดได้ในปี 66

 

ปัจจัยลบ 

- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในช่วงสิ้นปีหน้า และ ECB เปิดเผยมาตรการเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะยุติการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินในเดือนมี.ค. 65

 

 

-อังกฤษเปิดเผย GDP เพิ่มขึ้นเพียง 1.1% ใน 3Q64 น้อยกว่าที่คาดว่าจะโต 1.3% ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะกระทบการฟื้นตัวในช่วงปลายปีนี้ แสดงถึงการชะลอตัวจาก 2Q64 ที่ฟื้นตัวขึ้น 5.4% ในช่วงที่อังกฤษได้ยกเลิกหลายมาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิด
-ก.คลังเตรียมปรับโครงสร้างภาษี เพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บภาษีหลังรัฐบาลลุยกู้ 1.5 ล้านล้านบาทสู้โควิด-19 เดินหน้าศึกษาแนวทางรีดภาษีความเค็มแก้ปมสุขภาพคนไทย
+/- ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 2,940 ราย แม้ตัวเลขต่ำกว่าระดับ 3 พันรายแต่ตัวเลขเพิ่มขึ้นติดกันสองวัน ATK 635 ราย ตาย 30 ราย

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแรงหนุนจากจากผลการวิจัยที่ระบุว่า ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่จะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล มีน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา ประกอบกับได้อานิสงส์จากราคาน้้ามันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,620-1,635 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• รอบ 1H65 หุ้นที่เข้าคำนวณ SET50 : หุ้นเข้า AWC BANPU TIDLOR หุ้นออก BJC DELTA STA , SET100 : หุ้นเข้า AWC BLA BPP EPG KEX RCL SIRI STARK TIDLOR TTA หุ้นออก BJC DELTA AAV ICHI JAS NRF PRM PTL PSL TKN
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 : STGT VIBHA BCH EKH CMR SMD WINMED PHOL
• ได้ประโยชน์จากโครงการ 'ช้อปดีมีคืน’ : COM7 SYNEX CPW SPVI SVOA JMART IT

 

 

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                      WFX – IPO 7.20 บาท ราคาเหมาะสม 9.40 บาท

                                          SET / Consumption Industry / Fashion

     บล.โกลเบล็กเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่าย

•บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ WFX ดำานินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืด มีกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ในอุตสาหกรรมสิ่งทอทั่วไป สิ่งทอทางการแพทย์ และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น บริษัทมีโรงงานผลิต 1 แห่งกำลังการผลิตเฉลี่ย 3.5 หมื่นตัน/ปี

•รายได้รวมช่วงปี 61-63 เท่ากับ 1.86 2.05 และ 2.41 พันลบ. ตามลำดับ คิดเป็น CAGR เฉลี่ย 13.8% ต่อปี เติบโตตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งกลุ่มลูกค้าเก่าและใหม่ 9M64 บริษัทมีรายได้ 2.58 พันลบ. +51%YoY จากการขยายกำลังการผลิตใหม่เพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น ส่วน %GPM ช่วงปี 61-63 และ 9M64 เท่ากับ 4.82% 4.76% 7.42% และ 15.96% ตามลำดับ เร่งตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นผลจากปริมาณผลิตที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิด Economies of Scale ส่งผลให้ช่วงปี 61-63 และ 9M64 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 19.2 ลบ. 7.7 ลบ. 57.8 ลบ. เติบโต CAGR 73.4% ต่อปี และ 188.2 ลบ. +218%YoY ตามลำดับ (กำไร 9M64 คิดเป็น 72% ของประมาณการทั้งปี 64 ที่ 260 ลบ.)

ลุ้นขึ้นต่อ (ประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2564)

•เราประเมินรายได้ช่วงปี 64-65 ราว 3.5 พันลบ. +46%YoY และ 4 พันลบ. +14%YoY ตามลำดับ จากการขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นปี 64 บริษัทเพิ่งขยายกำลังการผลิต 3,240 ตัน/ปี และมีแผนขยายกำลังผลิตอีก 12,400 ตัน/ปี ในช่วงปี 65-66 สอดคล้องกับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก ทำให้คาดว่าจะมี %U.rate ที่ระดับ >95% หลังเริ่มเดินเครื่องจักร

สมมติฐาน %GPM คาดว่าจะทรงตัวในระดับสูงที่ 14.7% และ 14.0% ตามลำดับ เป็นผลสืบเนื่องจาก %U.rate ที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิด Economies of Scale ส่งผลให้เราคาดกำไรสุทธิช่วงปี 64-65 ราว 260 ลบ. +350%YoY และ 317 ลบ. +22%YoY ตามลำดับ

•เราประเมินราคาเหมาะสมสำหรับปี 2565 ของ WFX ราว 9.40 บาทต่อหุ้น โดยอิง Prospected PE 13.75x +2.5SD ของค่าเฉลี่ยกลุ่มย้อนหลัง 1 ปี (Consensus Range : 9.40 -12.40 บาท)

•ราคา IPO = 7.20 บาท (Trailing PE = 12.4x) จำนวน IPO 142 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าระดมทุนสุทธิ 998.12 ลบ. วัตถุประสงค์ระดมทุน 1) ใช้เป็นเงินทุนในการขยายโรงงานผลิตเส้นด้ายยางยืด 350 ล้านบาท ภายในปี 65 2) ชำระคืนเงินกู้แก่สถาบันการเงิน 400 ล้านบาท ภายในปี 2564 และ 3) เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ 248.12 ล้านบาท ภายในปี 2565

 

หุ้นมีข่าว

(+) MVP (Bloomberg Consensus - บาท) กางแผนปี 2565 รุกธุรกิจเทคคอมพานีเต็มที่ พุ่งเป้าบล็อกเชน-คริปโท หลังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำในปีนี้ แย้มเปิดขายพื้นที่เมตาเวิร์สกระแสตอบรับดีเกินคาด เล็งขายเพิ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมจับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพิ่มแพ็กเกจเหรียญ MVP Coin (ที่มา ทันหุ้น)

(+) YGG (Bloomberg Consensus 32.00 บาท) ชี้ปี 65 เติบโตทุกธุรกิจตามเทรนด์โลก เร่งปั๊มรายได้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 15-20% ชี้กลุ่มเกมและอินโนเวชั่นโดดเด่น พร้อมเข้าสู่แพลตฟอร์มใหม่ๆ หลังผนึกพันธมิตร "MACO-ZooKeeper" ขณะที่ Home Sweet Home ทั้ง 2 ภาคสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท เล็งเปิดตัวเกมใหม่รับทรัพย์เพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SNNP (Bloomberg Consensus 15.05 บาท) เปิดฉากบุกตลาด "ขนมขบเคี้ยวผสมใบกัญชา" รายแรกของไทย ล่าสุดส่ง "ขนมรูปน่องไก่โลตัส ผสมใบกัญชา รสบาร์บีคิว" วางจำหน่ายโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อ ปลายเดือนธ.ค.นี้ หวังกระตุ้นยอดขาย หนุนผลงานโค้งสุดท้ายปีนี้ทำนิวไฮ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) BGRIM - EP (Bloomberg Consensus 55.00 , - บาท) BGRIM ปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมของ "อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น" หรือ E-COGEN กำลังการผลิตรวม 360 เมกะวัตต์เสร็จสมบูรณ์ หนุนศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ฟาก EP เตรียมบันทึกขายหุ้น E-COGEN ให้ "ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี" มูลค่ากว่า 11,334.09 ล้านบาท ภายในเดือน ธ.ค.นี้ หนุนผลงานไตรมาส 4/64 โตกระฉูด (ที่มา ข่าวหุ้น)