“อาคม”มั่นใจปี65อุตสาหกรรมท่องเที่ยว-โรงแรมฟื้นตัว

“อาคม”มั่นใจปี65อุตสาหกรรมท่องเที่ยว-โรงแรมฟื้นตัว

“อาคม”ชี้เศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวได้ดีจะหนุนให้เศรษฐกิจไทยปี 65 ฟื้นตัว โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโรงแรมจะได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการเปิดประเทศ แนะภาคธุรกิจปรับตัวรับกระแสโลกดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสังคมสูงวัย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวระหว่างการเป็นประธานเปิดงาน Money Expo 2021 ที่เมืองทองธานี โดยเขากล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะสามารถฟื้นตัวได้ดี โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรม หลังจากรัฐบาลประกาศเปิดประเทศ แม้ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์โควิด-19 จะมีสายพันธ์โอมิครอนเข้ามา อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ด้วยเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวได้ดี จะหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ดีตามขึ้นไปด้วย

ทั้งนี้ สถาบันการเงินเฉพาะกิจได้จัดของขวัญปีใหม่ให้แก่ลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับประชาชนที่มีศักยภาพและความสามารถในการชำระหนี้ได้มีโอกาสได้รับเงินสดกลับทันที เพื่อเติมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพและค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ส่วนมาตรการอื่นที่กระทรวงการคลังจะทยอยออกมานั้น จะมีอะไรบ้าง ก็ขอให้ติดตามต่อไป แต่อย่างน้อยโครงการช้อปดีมีคืนและคนละครึ่งก็ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมาแล้ว

“รัฐบาลได้ประกาศการผ่อนคลายล็อกดาวน์เมื่อต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ประชาชนออกมาใช้จ่าย ส่งผลให้ภาคธุรกิจเริ่มกลับมาคึกคักมากยิ่งขึ้น”

เขากล่าวว่า ท่ามกลางแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็น คือ ธุรกิจแทบทุกภาคส่วนต่างพากันเร่งนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ เพื่อความสะดวกรวดเร็วและประหยัดเวลาค่าใช้จ่ายไม่ว่าการทำการตลาดแบบออนไลน์มาเก็ตติ้ง การไลฟ์ขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย การชำระเงินผ่านระบบอีเพย์เมนท์ หรือการสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อรับข้อมูลข่าสารต่างๆ หากเราย้อนเวลากลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน คงไม่มีใครเชื่อว่า เราจะเข้าถึงบริการการเงินแทบทุกชนิดผ่านทางหน้าจอมือเพียงเครื่องเดียว

ในส่วนภาครัฐเองได้พัฒนาแอพลิเคชั่นเป๋าตังให้มีความทันสมัย จากเดิมใช้ผ่านG-Walletให้ประชาชนเข้าถึงบริการการเงินภาครัฐ ทุกวันนี้ได้พัฒนาเป็นแพลทฟอร์มในการให้บริการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลรวมทั้งบริการอื่นๆ นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้ร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ ภาคธนาคารและภาคธุรกิจ จัดทำโครงการดิจิทัล ซัพพลายเชน ไฟแนนซ์ ที่จะนำข้อมูลข่าวสารบริการด้านการค้าและการชำระเงินของผู้ประกอบธุรกิจมาใช้ในการตรวจสอบเอกสารการให้สินเชื่อ โดยหวังจะยกระดับธุรกิจเอสเอ็มอีให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งยังช่วยสร้างฐานข้อมูลธุรกิจให้เป็นBig Data อย่างแท้จริง

“จะเห็นได้ว่า แม้แต่ภาครัฐเองก็ไม่หยุดยิ่งพัฒนาปรับตัวทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่เพียงแค่ปรับตัวเท่านั้น การให้ความรู้การเงินก็เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ให้คำปรึกษาด้านความมั่งคั่งก็ไม่หยุดพัฒนาองค์ความรู้เพื่อให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าอย่างตรงจุด”

เขากล่าวด้วยว่า โลกภายหลังโควิดกับสิ่งที่ต้องเผชิญในวันข้างหน้า ไม่ว่า สงครามการค้าของประเทศมหาอำนาจ การเข้าสู่สังคมสูงอายุ การเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ หรือความท้าทายจากเทคโนโลยี นับว่า เป็นสิ่งที่ท้าทายเราทุกคน เมื่อการเปลี่ยนแปลงมาเยือน ย่อมไม่มีอุตสาหกรรมใดหนีพ้นไปได้ ฉะนั้น เราจึงต้องเรียนรู้ปรับตัวไปด้วยกัน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วนในการสร้างระบบนิเวศน์ทางด้านความมั่งคั่ง