เปิด 4 แผนบริหารกองทุนน้ำมันฯปี65 พร้อมเก็บเงินเข้ากองทุนเดือนก.พ.2565

เปิด 4 แผนบริหารกองทุนน้ำมันฯปี65 พร้อมเก็บเงินเข้ากองทุนเดือนก.พ.2565

เปิด 4 แผนหลักบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปี2565 รองรับวิกฤตด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ลุ้นพลังงานหาแนวทางขอเงินพยุง LPG อีก 1-2 เดือน หลังกองทุนน้ำมันฯ หมดสิทธิ์กู้เงินจากพ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนแสนล้านบาท คาดเริ่มเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้เดือนก.พ.65

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน คาดว่าจะมีการพิจารณาขยายระยะเวลาการตรึงราคาก๊าซLPG ต่อไปอีก 1-2 เดือน จากมติกบง.เดิมตรึงราคาไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมถึง 31 ธ.ค.2564 เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน ซึ่งหากกบง.เห็นชอบจะเสนอประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) วันที่ 27 ธ.ค.2564 เพื่อขอขยายกรอบวงเงินกองทุนน้ำมันฯ LPG จากเดิมไม่เกิน 23,000 ล้านบาทเป็นวงเงินไม่เกิน 24,000-25,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ แนวโน้มราคา LPG คาดว่าสูงถึงก.พ.2565 โดยเฉลี่ยขณะนี้ราคา LPG ตลาดโลกอยู่ระดับ 600 กว่าดอลลาร์ต่อตัน ก็เริ่มลดลงแต่ยังคงผันผวน โดยแนวโน้มราคาพลังงานในปี2565 คาดว่าราคาน้ำมันดิบและLPG จะปรับลดลงหลังผ่านพ้นฤดูหนาวของประเทศในแถบยุโรปเพราะความต้องการใช้ลดลง โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบน่าจะผ่านจุดสูงสุดแล้วเดือนพ.ย.-ธ.ค.2564 จึงมองว่าจะสามารถเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ช่วงเดือนก.พ.2565

"กองทุนน้ำมันฯ ไม่สามารถกู้เงินจากพ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนแสนล้านบาทได้  กระบวนการต่อจากนี้ กระทรวงพลังงานจะทำเรื่องเสนอขอทำโครงการไปที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ฯ พร้อมทั้งตรวจสอบกฎหมาย และหากขอได้ก็จะโอนเงินมาให้กองทุนน้ำมันฯ เพื่อนำเงินมาช่วยเหลือภาคประชาชนต่อไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอกรมบัญชีกลางกับสำนักงบประมาณส่งหนังสือชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ตามขั้นตอน”

สำหรับผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 (1 ต.ค.63 – 30 ก.ย.64) กองทุนน้ำมันฯ ได้รักษาระดับขายปลีกก๊าซ LPG ประมาณ 9,532 ล้านบาท พร้อมชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพในประเภทน้ำมันเบนซินประมาณ 9,054 ล้านบาท และน้ำมันดีเซลประมาณ 24,469 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วงเดือนที่ผ่านมาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกลดลงแต่ยังคงมีความผันผวนในช่วงวันที่ 17 พ.ย.- 17 ธ.ค.2564 น้ำมันดูไบจาก 80.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็น 73.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันดีเซลจาก 91.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็น 85.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซินจาก 95.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็น 88.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน LPG cargo จาก 798.50 ดอลลาร์ต่อตัน เป็น 682 ดอลลาร์ต่อตัน สาเหตุความผันผวนยังคงเป็นเรื่องของเชื้อไวรัสโอมิครอน และการไม่เพิ่มการผลิตน้ำมันเของกลุ่มโอเปกพลัส

อย่างไรก็ตาม กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ยังคงมีการช่วยเหลือประชาชนในด้านราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร และราคาก๊าซ LPG ไม่เกิน 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ทำให้ประมาณการสภาพคล่องของเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในเดือนธ.ค.2564 มีการจ่ายเงินออกจำนวน 5,963 ล้านบาท แบ่งเป็นการจ่ายประเภทน้ำมัน 4,276 ล้านบาท ประเภทก๊าซ LPG 1,687 ล้านบาท ส่งผลให้ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวันที่ 19 ธ.ค.2564 มีฐานะสุทธิ -3,072 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 19,223 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG –22,295 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ยังคงมีสภาพคล่องในการจ่ายเงินถึงแม้ว่าฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะติดลบก็ตาม

สำหรับ ทิศทางการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในปี2565 ประกอบด้วย

1. การทบทวนแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง โดยจะนำตัวเลขด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องมาศึกษาทบทวนเพื่อกำหนดระดับราคาวิกฤตด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดจนทบทวนสถานการณ์ต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลก

2. ระบบติดตามและการเชื่อมโยงข้อมูลกรมสรรพสามิต และจัดให้มีระบบฐานข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการเบิกจ่ายเงินชดเชยให้เกิดความรวดเร็วและถูกต้อง

3. การทบทวนแผนยุทธศาสตร์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2566-2670 ซึ่งแผนยุทธศาสตร์ฉบับใหม่จะมุ่งเน้นให้สอดคล้องแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการ การบริหารจัดการกองทุนน้ำมันฯ และ 4. แผนลดการชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ โดย สกนช. จึงได้หารือกับสมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลไทย และสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนขอขยายการชดเชยโดยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ในปัจจุบัน