LH - ลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ ต่างประเทศ (9 ธ.ค. 64)
LH เข้าซื้อโรงแรมในสหรัฐฯ มูลค่า US$31m หรือ 1พันลบ. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจลงทุนอสังหาฯในต่างประเทศของบริษัท
เราคาดว่าการลงทุนนี้จะสร้างอัพไซด์ของรายได้ค่าเช่าราว 10% แต่จะมีผลเพียงเล็กน้อยต่อกำไรสุทธิ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ LH ในปี 2022 และคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 10.5บาท อ้างอิง SOTP ณ สิ้นปี 2022
LH เข้าซื้อโรงแรมใหม่ในสหรัฐฯ
LH เผย Land and House U.S.A., Inc. ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ LH ถือหุ้นอยู่ 100% ได้เข้าซื้อ SpringHill Suites by Marriott ใน Anaheim แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ โดยโรงแรมมีพื้นที่ 2.07 เอเคอร์ 120 ห้อง ทั้งนี้ราคาที่บริษัทเข้าซื้อโรงแรมคือ US$31m หรือ 1.056พันลบ. เรามองว่าเป็นการลงทุนตามปกติของบริษัทในส่วนธุรกิจลงทุนอสังหาฯต่างประเทศของ LH ซึ่งบริษัทได้ลงทุนในทรัพย์สินต่างประเทศโดยเฉพาะในสหรัฐฯมาตั้งแต่ 2012 โดย LH มักลงทุนในโรงแรมหรือตึกอพาร์ทเมนต์เก่าเพื่อนำมารีโนเวตและขายออกในอนาคต
ผลกระทบเล็กน้อยต่อรายได้ค่าเช่าและกำไร
LH ลงทุนในอพาร์ทเมนต์ในสหรัฐฯมาแล้ว 7 แห่งตั้งแต่ปี 2012 โดยบริษัทซื้อ Verona ในปี 2012 มูลค่า US$12m และขายในราคา US$18m ใน 2015 ขณะที่บริษัทซื้อ Domain มูลค่า US$104m ในปี 2014 และ Mode มูลค่า US$74m ใน 2015 ก่อนที่จะขายออก US$140m ในปี 2018 และ US$80m ในปี 2020 ตามลำดับ ทำให้ปัจจุบัน LH มีทรัพย์สินรวม 4 แห่ง ได้แก่ Parc, Yard, Revere และ SpringHill ในเบื้องต้นเราประเมินรายได้ค่าเช่าของบริษัทมีอัพไซด์ราว 10% แต่อาจมีผลต่อกำไรค่อนข้างน้อยราว 1% จากโรงแรมใหม่นี้
LH มีแนวโน้มที่ดีในปี 2022
เราคาดกำไรของบริษัทจะฟื้นตัวแรง qoq ใน 4Q21 จากส่วนแบ่งกำไรบริษัทลูกเช่น HMPRO แต่จะลดลง yoy เนื่องจากฐานสูงจากการขายเงินลงทุนใน 4Q20 มองไปข้างหน้าเรามีมุมมองเชิงบวกต่อ LH ในปี 2022 จากการโอนโครงการแนวราบที่แข็งแกร่งต่อเนื่องและมีคอนโดมิเนียมใหม่ “The Key Rama 3” (2พันลบ.) โอนในปีหน้า แม้เราคาดว่า LH อาจยังไม่มีกำไรจากการขายเงินลงทุนในปีหน้า แต่ LH จะมีอัพไซด์จากศูนย์การค้า “Terminal Rama 3” ซึ่งอาจเริ่มดำเนินงานได้ใน 1H22
