Selective buy (ประจำวันที่ 9 ธันวาคม 2564)
ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ปิดบวก 9 จุด แม้จะมีข่าวพบผู้ติดเชื้อ"โอมิครอน"ในประเทศเพิ่มอีก 2 ราย แต่ตลาดไม่ตื่นตระหนกกับข่าวดังกล่าวเนื่องจากมองว่าผู้ป่วยจะมีอาการไม่รุนแรง รักษาได้ และไม่เสียชีวิต หุ้นที่ปรับขึ้นเป็นกลุ่มนำดัชนีวันนี้ คือ กลุ่ม ICT
ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ปิดบวก 9 จุด แม้จะมีข่าวพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนในประเทศเพิ่มอีก 2 ราย แต่ตลาดไม่ตื่นตระหนกกับข่าวดังกล่าวเนื่องจากมองว่าผู้ป่วยจะมีอาการไม่รุนแรง รักษาได้ และไม่เสียชีวิต หุ้นที่ปรับขึ้นเป็นกลุ่มนำดัชนีวันนี้ คือ กลุ่ม ICT
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
คาด SET แกว่งตัว 1,610 - 1,630 จุด ความคลายกังวลเชื้อ Omicron ยังคงเป็นปัจจัยบวกหลักโดยล่าสุดไฟเซอร์เผยว่าการฉีดวัคซีนเข็ม3 สามารถรับมือ Omicronได้ อย่างไรก็ตาม Fundflow ที่ผันผวนก่อนการประชุม FED 14 - 15 ธ.ค. ที่อาจลด QE ลง รวมถึงแรงขายก่อนหยุดยาว 3 วันจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัว
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
ค่าระวาง Container มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น RCL LEO III WICE SONIC JWD
กลุ่มธนาคาร (BBL TTB KTB KBANK) ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น
Domestic Play (HMPRO CPN CRC AMATA WHA BTS BEM VGI SYNEX COM7)
หุ้นแนะนำวันนี้
ASK (43.5IAA Consensus 47.50) ฐานกำไรทยอยยกขึ้นในทุกไตรมาส อานิสงส์จากธุรกิจออนไลน์ที่ขยายตัวหนุนดีมานด์รถบรรทุกพุ่งขณะที่ซัพพลายมีไม่พอส่งผลให้ราคารถใหม่และเก่าเพิ่มเป็นบวกกับ ASK โดยตรง
TH (ปิด 3.08 ซื้อ/เป้า 3.90) เปลี่ยนธุรกิจสู่การบริหารจัดการหนี้อย่างเต็มรูปแบบ 3Q21 ชนะประมูลหนี้เสียมูลค่า 3,000 ล้านบาทเริ่มทยอยรับรู้รายได้ 4Q21 ส่วนปีหน้าตั้งเป้าประมูลหนี้เพิ่มอีก 6,000 ล้านบาท และอีก 6,000 ล้านบาทในปี 66 และล่าสุดแตกไลน์ธุรกิจสู่การเงินดิจิทัล (Decentralized Infrastructure) เป็น Growth story ในอนาคต
บทวิเคราะห์วันนี้
LH (ปิด 9.55 ซื้อ/เป้า 10.50), Healthcare sector (Top pick: BH, BDMS)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) Covid-19บริษัทไฟเซอร์ อิงค์และไบออนเทค แถลงผลการทดลองเบื้องต้นว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของแอนติบอดีได้ถึง 25 เท่า เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม โดยการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 จะลดความสามารถในการต่อสู้ของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนลงเหลือเท่ากับไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมสะท้อนว่าวัคซีนบูตเตอร์หรือเข็ม 3 สามารถป้องกันโอไมครอนได้
(+/-) เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาชาติมหาอำนาจและอิหร่านได้เปิดโต๊ะเจรจาต่อประเด็นปัญหานิวเคลียร์กันอีกครั้งแต่การเจรจายังไม่ได้ข้อสรุปเนื่องจาก ชาติมหาอำนาจโดยเฉพาะกลุ่มประเทศในยุโรประบุว่าอิหร่านเรียกร้องมากเกินไป ส่งผลให้การประชุมยุติไว้ก่อนและคาดว่าจะกลับมาเจรจากันใหม่อีกครั้งใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
(+/-) พรุ่งนี้ติดตามสหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อหากยังพุ่งสูงจะเป็นปัจจัยลบกดดันตลาด: เบื้องต้น Consensus คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐเดือน พ.ย.จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.8% จาก 6.2% ในเดือน ต.ค. และคาดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.9% จาก 4.6% ซึ่งทั้ง 2 ดัชนีอยู่เกินระดับเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดที่ 2% ไปแล้วหากอัตราเงินเฟ้อยังพุ่งต่อเนื่องจะกดดันให้เฟดลด QE เร็วขึ้นและมีโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นได้เช่นกัน