Bank Sector - พอร์ตสินเชื่อทรงตัวในเดือน ต.ค.

Bank Sector - พอร์ตสินเชื่อทรงตัวในเดือน ต.ค.

ธนาคารหลักไทยรายงานยอดสินเชื่อทรงตัวในเดือน ต.ค. แต่เพิ่มขึ้น 4.4% ytd นำโดย KTB และ KBANK ขณะที่สินเชื่อในมาตรการความช่วยเหลือเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารได้ และยังต่ำกว่าระดับสูงสุดในปีที่แล้ว

เราคงให้น้ำหนักกลุ่มธนาคาร มากกว่าตลาด โดยมี KBANK และ TTB เป็นหุ้นเด่น

 

KTB และ KBANK พอร์ตสินเชื่อปีนี้เติบโตโดดเด่น

ธนาคารหลัก 7 แห่งรายงานสินเชื่อรวมที่ 10.48 ล้านลบ. ในเดือน ต.ค. ทรงตัวเมื่อเทียบเดือนก่อนหน้า แต่มีการขยายตัวแล้วถึง 4.4% ytd โดยเดือนนี้ข้อมูลสะท้อนผลงานที่ผสมผสานหลัง TISCO, KKP, KTB และ KBANK มีพอร์ตสินเชื่อที่เติบโต ขณะที่พอร์ตสินเชื่อของ BBL, TTB และ SCB หดตัวลงในเดือนนี้ ทั้งนี้ KTB รายงานสินเชื่อเติบโต 0.6% mom และมีการขยายตัวได้แข็งแกร่งที่สุด 10.7% ใน 10M21 พอร์ตสินเชื่อที่เติบโตได้แข็งแกร่งปีนี้เนื่องจากได้แรงหนุนจากพอร์ตหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจซึ่งเติบโตมากกว่า 40% ในปีนี้

 

TISCO และ TTB สินเชื่อยังหดตัว

KBANK มีพอร์ตสินเชื่อเติบโตต่ออีก 0.4% mom ในเดือน ต.ค. ซึ่งถือว่าทำผลงานได้ดีเป็นอันดับสองในกลุ่มโดยสินเชื่อเติบโตได้แล้วถึง 8.8% ytd หนุนจากอุปสงค์ของกลุ่มธุรกิจที่ต้องการเงินทุนเพื่อต่อสู้กับผลกระทบจากโควิดระลอกใหม่ และอานิสงค์จากโครงการซอฟท์โลนของธปท. ขณะที่ TISCO และ TTB พอร์ตสินเชื่อหดตัว 9.7% และ 2.5% ytd ตามลำดับจากผลกระทบของปัญหาในอุตสาหกรรมยานยนต์หลังการระบาดของโควิดระลอกใหม่

สินเชื่อในมาตรการบรรเทาผลกระทบเพิ่มขึ้นแต่ยังต่ำกว่าระดับสูงสุด

ด้านธปท.เปิดเผยยอดสินเชื่อในมาตรการความช่วยเหลือมีการปรับเพิ่มขึ้นเป็น 26% ของสินเชื่อทั้งหมดในเดือน ก.ย. เทียบจาก 22% ใน มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงก่อนการระบาดระลอกใหม่และการล็อคดาวน์ อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้ยังเป็นอัตราที่ต่ำกว่าระดับสูงสุดในช่วงเดือน ก.ค.ปีที่แล้วที่มีสินเชื่ออยู่ในมาตรการความช่วยเหลือแตะระดับ 51% ของสินเชื่อทั้งหมด ธนาคารของรัฐยังเป็นธนาคารหลักที่เสนอมาตรการความช่วยเหลือให้ผู้กู้ ขณะที่ธนาคารหลักมีสัดส่วนสินเชื่อที่อยู่ในมาตรการต่ำกว่าที่เพียง 13% เราคงให้น้ำหนักกลุ่มธนาคาร มากกว่าตลาด โดยเลือก KBANK และ TTB เป็นหุ้นเด่น เราชอบ KBANK จากความแข็งแกร่งของเครือข่ายลูกค้าและเป็นผู้นำให้ดิจิตัลแฟลตฟอร์มสะท้อนในพอร์ตสินเชื่อขยายตัวในปีนี้ ขณะที่ TTB เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากเป็นหุ้นแลกการ์ด TTB จะยังไม่ฟื้นตัวในปีนี้ แต่จะเติบโตสูงสุดในกลุ่มปีหน้าจากการประหยัดค่าใช้จ่ายรวมถึงซินเนอร์ยีต้นทุนและงบดุลหลังการควบรวม