น้ำมันพยุงตลาด (วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564)

น้ำมันพยุงตลาด (วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564)

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเร่งตัวขึ้นในช่วงบ่ายประมาณ +6 จุด จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานรวมทั้งหุ้นกลุ่มถ่านหิน จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้น ทั้ง BANPU, LANNA, AGE

แต่ยังคงเห็นแรงขายให้หุ้น DELTA และหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า อย่าง GPSC, BGRIM ต่อเนื่องจากวันก่อน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,631.69 จุด +5.56 จุด +0.34% มูลค่าการซื้อขาย 71,995 ลบ.ต่างชาติ +1,990.97 ลบ. TFEX +2,511 สัญญา ตราสารหนี้ +12,119.78 ลบ.

 

ปัจจัยบวก    

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.22 ดอลลาร์ +2.7% ปิดที่ 84.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และบวกติดกัน 3 วัน นลท.มีมุมมองบวกต่อการผ่านร่างกม.การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ
+ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุว่าจะพิจารณาสิ่งบ่งชี้ในวงกว้างเพื่อประเมินภาวะการจ้างงานเต็มศักยภาพ
+ สหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตดีดตัวขึ้น 0.6%MoM ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย.
+ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 31.7 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 22.3 ในเดือนต.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 20.0
+ ครม.อนุมัติใช้งบ 500 ลบ.จัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์รักษาโควิด 2 ล้านเม็ด
+ธปท.เปิด ผลสำรวจแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อ 4Q64 พบว่าดีมานด์ขอสินเชื่อธุรกิจและภาคครัวเรือนฟื้น หลังคลายล็อกดาวน์
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ต่ำกว่า 7 พันรายเป็นวันที่สอง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 6,978 ราย ผลตรวจ ATK 2,358 คน มีผู้เสียชีวิต 62 ราย รักษาหาย 7,697 ราย

 


 

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 112.24 จุด -0.31% นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดปิดทำนิวไฮติดต่อกันหลายวัน และกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐส่งผลให้เกิดแรงเทขายหุ้นเป็นวงกว้าง

- ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 98.2 ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 99.5 จากระดับ 99.1 ในเดือนก.ย.
- เฟดเตือนวิกฤตภาคอสังหาฯจีนอาจส่งผลกระทบลามถึงระบบการเงินสหรัฐ
- เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิดหลังฉีดวัคซีนครบโดสแล้วรวม 28,293 คน
- จีนกำลังติดตามและตรวจสอบสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในไทยอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรของไทยส่งออกไปจีน โดยมีการยกระดับเพิ่มมาตรการป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ทั้งในคนและสินค้านำเข้า

 

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้ผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่ในประเทศต่ำกว่าระดับ 7 พันรายเป็นวันที่สอง มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1625-1,638 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้น Reopening Play : หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU M ZEN หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC MAKRO
• หุ้นได้ประโยชน์จากธปท.คลายกฏ LTV เน้นลงทุนหุ้นอสังหาฯ P/E ต่ำ แนะนำ LH QH AP SPALI SIRI ORI LALIN PSH
• ยอดส่งออกเดือน ก.ย. เติบโต TU NER TWPC SKN HTECH
• หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 3Q64 ออกมาดี GULF EKH KCE WICE SKN

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                               SABUY (Bloomberg Consensus 16 บาท)

•3Q64 มีรายได้รวม 675 ลบ. +70%QoQ,YoY จากการรักษาฐานรายได้ตู้เติมเงิน รวมถึงมีผู้เช่าระบบศูนย์อาหารเพิ่มขึ้น 14 รายและส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทร่วม กำไรสุทธิ 56 ลบ. +19%QoQ +149%YoY การเปรียบเทียบรายปีเติบโตสูงมากแม้มีอัตรากำไรขั้นต้นลดเหลือ 33.7% จาก 41.8% ใน 3Q63 แต่การควบคุมคชจ.ที่ดีมากทำให้อัตรากำไรสุทธิปรับขึ้นเป็น 10.8% จาก 5.3% ใน 3Q63 งวด 9M64 รายได้รวม 1,446 ลบ. +29%YoY กำไรสุทธิ 137 ลบ. +95%YoY อัตรากำไรสุทธิ 10.7% จาก 6.2% ใน 9M63 ณ สิ้น 3Q64 มีตู้เติมเงิน 57,036 ตู้ แฟรนไชส์ Shipsmile service 4,040 สาขา Vending machine 5,600 ตู้ ศูนย์อาหาร 231 แห่ง พลัส เอ็กซ์เพรส 170 แห่ง

•ล่าสุดมี 6 ดีล ดังนี้ 1.ลงทุนในบริษัท แพลท ฟินเซิร์ฟ จากัด ถือหุ้น 50% ทำธุรกิจติดตู้ATM 10,000 ตู้หน้าร้าน 7-11 2. ซื้อตู้ Vending machine 4,600 ตู้จาก FORTH 3.ร่วมทุนกับ FSMART ถือหุ้น50% ดำเนินธุรกิจร้านรับส่งพัสดุ ซ่อมแซมตู้จำหน่ายสินค้า 4.ขยายเครือข่ายร้านรับส่งพัสดุ ถือหุ้น 70% ในบ. เดอะ เลตเตอร์ โพสต์ เซอร์วิส จากัด 5.ซื้อหุ้น 60% ในบ.เอ็มพ้อยท์เอ็กเพรส จากัด 6. เพิ่มการลงทุนใน Shipsmile ไม่เกิน10% จากปัจจุบันมีสัดส่วน 38% เป็นไม่เกิน 48%

•Outlook ปี 65 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% YoY จากการเติบโตของ 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจตู้เติมเงิน ธุรกิจจัดส่งพัสดุ(Drop off) ธุรกิจการชำระเงิน (ตู้ATM) และธุรกิจตู้ขายสินค้า โดยตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้งาน 50 ล้านรายจากบริการทั้งหมดในกลุ่ม

 

หุ้นมีข่าว

(+) WHA ( ฺBloomberg Consensus 3.95 บาท) เนื้อหอม ลูกค้ารายใหญ่จีน-ญี่ปุ่น-สหรัฐ-ยุโรป รุมจีบซื้อที่ดิน EEC เผยมีสัญญาในมือรอโอนกว่า 400-500 ไร่ และอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีกหลายร้อยไร่ ชี้ปีหน้ายอดขายที่ดินบูม หลังรัฐบาลไทยเปิดประเทศอ้าแขนรับต่างชาติ พร้อมคง EBITDA เกิน 40% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PACO ( ฺBloomberg Consensus - บาท) ส่งสัญญาณมีลุ้นคว้าโปรเจ็กต์ใหญ่ คาดชัดเจนภายในไตรมาส 1/65 ล่าสุดกวาดกำไรไตรมาส 3/64 ที่ 32 ล้านบาท พุ่งขึ้น 50% แย้มปีหน้าธุรกิจสดใส จ่อรับรู้รายได้ OEM หลังคว้าสัญญาจากผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก 800 ล้านบาท พร้อมกดปุ่มเดินเครื่องโรงงานใหม่ต้นปี 65 ปั๊มกำลังผลิตเพิ่ม 30% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ADB (Bloomberg Consensus - บาท) อ้าแขนรับพันธมิตรต่อยอดธุรกิจ "เอดีบี ไบโอ" ผลิตและจำหน่ายสินค้าทางชีวภาพ ด้านผู้บริหารเกาะติดราคาวัตถุดิบ บริหารต้นทุน หวังมาร์จิ้นพองโต พร้อมส่งสัญญาณปี 65 รายได้โตต่อ 20% จากปีนี้คาดยอดเข้าเป้า โชว์ 9 เดือน บุ๊กกำไรเข้ากระเป๋า 77.96 ล้านบาท ฟากบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.05 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ASW (Bloomberg Consensus - บาท) “แอสเซทไวส์” ปลื้ม “เคฟ ทียู” มูลค่า 1,800 ล้านบาท กระแสตอบรับดีเกินคาด กวาดยอดขายได้มากกว่า 90% ยอดโอนรับรู้รายได้ทะลุเป้า หนุนผลงานไตรมาส 3/64 ขณะที่ไตรมาส 4/64 จ่อโอน “โมดิซ สุขุมวิท 50” มูลค่า 2,100 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปีนี้โต 20% ตุนแบ็กล็อกเต็มมือ 7,600 ล้านบาท(ที่มา ข่าวหุ้น)