BH เผยกำไร 9 เดือนปีนี้ 604 ล้าน วูบ 41.5% เหตุโควิดยืดเยื้อ

BH เผยกำไร 9 เดือนปีนี้ 604 ล้าน วูบ 41.5% เหตุโควิดยืดเยื้อ

"รพ.บํารุงราษฎร์" กำไร9เดือน ปีนี้กำไร 604 ล้าน ลดลง 41.5% และมีรายได้รวม 8,683 ล้าน ลดลง 8.7%จากช่วงเดียวกันปีก่อน เหตุลโควิดระบาดต่อเนื่องจากปีก่อน แต่ไตรมาส 3 มีกำไรและรายได้รวมเพิ่มขึ้น 33.6% และ 2.4% จากรายได้จากกลมผู้ป่วยชาวไทย และการควบคุมต้นทุนได้อย่างต่อเนื่อง

บริษัท โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์จํากัด (มหาชน) หรือ BH  แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า ผลการดำเนินงานสําหรับ 9 เดือนแรกของปี2564 บริษัทมีรายได้รวม 8,683 ล้านบาท ลดลง 8.7% จาก 9,505 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันปีก่อน และมี กําไรสุทธิ  604 ล้านบาท ลดลง 41.5%จาก 1,031 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้อัตรากําไรสุทธิเป็น7.0% ใน9เดือนแรกของปี2564 เทียบกับ10.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน  การลดลงส่วนใหญ่เป็นผลกระทบมาจาก โควิด-19 ที่เพิ่งเริ่มในช่วงปลายไตรมาส 1 ปี2563

 

 

 

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2564 มีรายได้  อยู่ที่2,989 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 2.4% จาก 2,919 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี2563 และมีกําไรสุทธิ  296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.6% จาก 222 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี2563 ส่งผลให้อัตรากําไรสุทธิ เป็น 9.9%  ในไตรมาส 3 ปี2564 เทียบกับ  7.6% ในไตรมาส 3 ปี2563

ทั้งนี้ ผลการดําเนินงานของไตรมาส 3 ปี 2564 เติบโตขึ้นจากไตรมาส 2 ปี2564 สาเหตุหลักมาจากการ เพิ่มขึ้นของ รายได้จากกลมผู้ป่วยชาวไทย และการควบคุมต้นทุนได้อย่างต่อเนื่อง กําไรสุทธิของไตรมาส 3 ปี2564 เพิ่มขึ้น 36.7% จากไตรมาส 2 ปี2564 ส่งผลให้อัตรากําไรสุทธิเป็น 9.9% ในไตรมาส 3 ปี2564 เทียบกับ 7.2% ในไตรมาส 2 ปี2564

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีจํานวนผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคม 2563 จนถึงปี2564 แต่การเติบโตในธุรกิจของกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่พํานักในไทยยังคงเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว และด้วยข้อจํากัดในการเดินทางและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ก็ยังคงส่งผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติของบริษัท โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับฐานที่สูงในช่วงครึ่งแรกของไตรมาส 1 ปี2563 ซึ่งสถานการณ์ โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อ การดําเนินงานของบริษัทเพียงเล็กน้อย ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน 2564 จนถึงวนที่ 7 ตุลาคม 2564 รัฐบาลไทยได้ปิดพรมแดนการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ระหว่างประเทศโดยสมบรณ์โดยการระงบโครงการกักกันตัวในโรงพยาบาลทางเลือก (AHQ)