เลขาฯสมช.ขอประเมินโควิดหลังเปิดประเทศ 15 วัน ก่อนปลดล็อกผับ-บาร์

เลขาฯสมช.ขอประเมินโควิดหลังเปิดประเทศ 15 วัน ก่อนปลดล็อกผับ-บาร์

เลขาฯสมช. เรียกเอกชนภาคท่องเที่ยว ชี้แจงเปิดประเทศต่อภาคเอกชน ยันจำเป็นต้องคงมาตรการดื่มในร้านถึง 3 ทุ่ม แย้มประเมินสถานการณ์ 15 วัน ก่อนตัดสินใจเปิดผับบาร์ในพื้นที่นำร่อง 17 จังหวัด

พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 (ศปก.ศบค.) เปิดเผยภายหลังหารือกับผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยว ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (2พ.ย.) ว่าการหารือกับภาคเอกชนเพื่อชี้แจงความชัดเจนในการเปิดประเทศในครั้งนี้ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับภาคเอกชนเกี่ยวกับการดำเนินการในการเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมาของรัฐบาล รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนว่าควรมีการดำเนินการในประเด็นต่างๆเพิ่มเติมอย่างไร 

สำหรับการผ่อนคลายมาตรการต่างๆเพิ่มเติมนั้น ศปก.ศบค.มีการประเมินสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิด โดยมีการประชุมชุดย่อยทุก 2 วัน และมีการประเมินสถานการณ์เพื่อรายงานให้ ศบค.ชุดใหญ่ทราบทุกๆ 15 วัน ดังนั้นหากจะสามารถผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เช่น การเปิดสถานบันเทิง ผับ เปิดบาร์ เพิ่มเติมต้องประเมินภายในวันที่ 15 พ.ย.ภายหลังจากเปิดประเทศแล้ว 15 วัน ซึ่งหากสามารถเปิดได้จะเปิดในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ใน 17 จังหวัดก่อน 

"ต้องขอขอบคุณท่านนายกฯ ที่ได้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญที่จะเปิดประเทศ  เพื่อประคับประคองภาคเศรษฐกิจและธุรกิจให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้  โดยได้รับความสนใจและร่วมมือจากธุรกิจภาคเอกชนสมาคมองค์กรต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุนและให้ความเห็นในวันนี้"พล.อ.สุพจน์กล่าว

สำหรับตัวชี้วัดในการประเมินสถานการณ์การผ่อนคลายมาตรการให้สถานบริการเปิดได้หรือไม่ ได้แก่ 1.จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือลดลง 

2.จำนวนคลัสเตอร์ใหม่ที่เกิดขึ้น 

3.อัตราการครองเตียงในสถานพยาบาล 

สำหรับการใช้มาตรการกำหนดให้ร้านค้าที่สามารถจำหน่ายสุราในร้าน ที่ประชุมฯรับทราบร่วมกันถึงความจำเป็นในการกำหนดมาตรการให้มีการจำหน่ายสุราในร้านได้ถึงเวลา 21.00 น.ซึ่งยังไม่มีการพิจารณาขยายเวลาการให้ดื่มสุราในร้านได้ ซึ่งจะมีการสุ่มตรวจจากเจ้าหน้าที่ และมีการตักเตือนในครั้งแรก หากพบว่าปล่อยปะละเลยให้ลูกค้าดื่มสุราเกินระยะเวลาก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมาย 

ส่วนปัญหาของเรื่องของร้านค้าที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA Plus มีจำนวนน้อย ที่ประชุมฯได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงสาธารณสุขตั้งทีมเร็วเข้าไปตรวจสอบร้านที่มีความพร้อมและให้มาตรฐา SHA และ SHA Plus ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น