เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยยังชอบโรงกลั่น ปิโตรเคมี

เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยยังชอบโรงกลั่น ปิโตรเคมี

การปรับลงของหุ้นไทยยังน่าจะเป็นเพียงการปรับพอร์ต วานนี้หุ้นไทยปรับลดลง 13 จุด สวนทางกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียที่ปรับขึ้น

เรามองสถานการณ์ดังกล่าวเป็นการปรับพอร์ตขายทำกำไรในกลุ่มที่ขึ้นมาเยอะ และทำกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งตอบรับความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างธุรกิจแบบเดียวกับ SCB ขณะที่อาจมีความเสี่ยงการตั้งสำรองโควิดที่อาจกระทบต่อผลประกอบการในระยะสั้นแต่เป็นโอกาสทยอยสะสมที่ดี (โดยเฉพาะ KBANK) เรายังคงมุมมองเชิงบวกกับการลงทุนจาก 1) สถานการณ์ควบคุมพลังงานในจีนยังเป็นบวกกับกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี 2) สถานการณ์ระบาดในประเทศที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการติดเชื้อล่าสุด 8,918 ราย ต่ำ 10,000 ราย เป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง ยังเป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

 

โรงกลั่นและปิโตรเคมียังมีแนวโน้มระยะสั้นที่ดีในกลุ่มโภคภัณฑ์ ค่าการกลั่น (GRM) ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการเปิดเมือง ซึ่งแม้ตัวเลขรายวันจะแกว่งผันผวน แต่ค่าเฉลี่ยของค่าการกลั่นไตรมาส 4/64 อยู่ที่ 7.03 เหรียญฯ/บาร์เรล ฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 3/64 ที่ 3.79 และดีกว่าค่าเฉลี่ยปี 2563 ทั้งปีที่เพียง 0.4 เหรียญ/บาร์เรล ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวทำให้มีกำไรเด่นทั้งจากผลการดำเนินงานปกติและสต็อค เป็นปัจจัยหนุนการเก็งกำไรใน TOP, ESSO, SPRC / สำหรับปิโตรเคมี ภาพรวมราคาและส่วนต่างปิโตรเคมีปรับดีขึ้นทุกผลิตภัณฑ์ ได้แก่ PTA/PET +36.4% WoW (ดีกับ IVL), HDPE spread +13.0% WoW (ดีกับ SCC), PP spread +10.6% (ดีกับ IRPC), ราคา HDPE +6.3% WoW (ดีกับ PTTGC) เรามองเป็นโอกาสเก็งกำไรในกลุ่มปิโตรเคมี และโอกาสลงทุนหุ้น SCC ที่ราคาช่วงสั้นถูกกดดันจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
 

ธีมการลงทุนระยะสั้น 1) กลุ่มโภคภัณฑ์ป้องกันเงินเฟ้อ PTTEP, PTTGC, IVL, TOP, BANPU 2) การเพิ่มเพดานหนี้เป็น 70% และแผนกู้เงินเพิ่ม จะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรขยับขึ้น ซึ่งบวกกับกลุ่มธนาคารและประกัน อาทิ BBL, KBANK, SCB, TIPH, THRE, BLA 3) หุ้นธีมเปิดเมืองยังน่าสนใจ CPN, CRC, MINT, CENTEL, ERW, BA 4) เรามองทยอยสะสม สื่อสาร สาธารณูปโภค ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART, GULF, GPSC, EGCO, RATCH, EASTW, WHAUP, TTW 5) เก็งกำไรทางเทคนิค WIIK, FORTH, FSMART, TNP, TWPC, NER, HFT, BEC, CPI, TKS, SKN, MAJOR, CPN, ERW

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวไม่หลุด 1,627 จุด ยังมองเป็นการเดินหน้าขึ้นทดสอบ 1,660-1,680 จุด โดยเป็นการสลับขึ้นลงของกลุ่มเปิดเมือง และกลุ่มอื่นๆ ช่วงสั้นโรงกลั่น ปิโตรเคมีเด่น ขณะที่กลุ่มจำนำทะเบียนรถเริ่มมีแรงซื้อคืนก่อนประชาพิจารณ์สัญญาเช่าซื้อ //หุ้นแนะนำ: TOP*, SCC*, EA*, WHA*

แนวรับ: 1,620-1,627/ แนวต้าน : 1,650-1,660 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

 

 

 

 

ประเด็นการลงทุน
 

คนละครึ่งเฟส 3 – อนุมัติ 5.46 หมื่นล้านบาท เติมเงิน 4 โครงการรัฐ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-กลุ่มเปราะบาง-คนละครึ่ง-ยิ่งใช้ ยิ่งได้" เผย "คนละครึ่งเฟส 3" จ่ายอีก 1,500 บาท เริ่มโอนเงินพฤศจิกายนนี้

ธปท. สั่งแบงก์คุมเข้มช็อปออนไลน์ - ธปท.สั่งทุกธนาคาร กำหนดให้ยืนยันตัวตนก่อนซื้อสินค้าออนไลน์ ให้มีการแจ้งเตือนเจ้าของบัตรทุกช่องทางตั้งแต่บาทแรก เพื่อป้องกันแก๊งดูดเงิน ทั้งให้คืนเงินในส่วนที่ไม่ได้ซื้อขายจริงภายใน 5 วัน สำรวจพบแล้ว 10,700 บัตร เสียหายกว่าร้อยล้าน ด้านเหยื่อทยอยแจ้งความเพียบ

ผุดนิคมใหม่หนุนอีอีซีโกยลงทุน - กนอ.เซ็นสัญญาตั้งนิคมฯ เอเพ็กซ์กรีน ในพื้นที่อีอีซี เน้นสร้างฐานอุตสาหกรรมใหม่ คาดแล้วเสร็จปี 66 ฟุ้งเกิดการลงทุนในนิคมฯ 64,000 ล้านบาท หนุนจ้างงานเพิ่มประมาณ 16,000 คน

ขยายเวลาแบงก์ลดเงินนำส่ง FIDF – ครม. รับทราบขยายเวลาลดเงินนำส่ง FIDF จากสถาบันการเงินชั่วคราวอีก 1 ปี สิ้นสุดปี 65 จาก 0.46% เหลือ 0.23% หวังลดต้นทุนทางการเงิน-ส่งผ่านต้นทุนไปช่วยเหลือประชาชน-ธุรกิจ

AAV – อนุมัติแผนปรับโครงสร้างบริษัท ซึ่งมีการเพิ่มทุน และการดำเนินงานหลายอย่าง นักลงทุนควรติดตามข้อมูล 

ประเด็นติดตาม: -  20 ต.ค.: EU CPI เดือน ก.ย., US crude oil inventories, รับฟังความเห็นประกาศเรื่องสัญญากลุ่มเช่าซื้อ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)