"คมนาคม" ชง ศบค.ยกระดับคัดกรองคนไทยเดินทาง วัคซีน 2 โดส - ตรวจโควิดเป็นลบ

"คมนาคม" ชง ศบค.ยกระดับคัดกรองคนไทยเดินทาง วัคซีน 2 โดส - ตรวจโควิดเป็นลบ

คมนาคมเตรียมเสนอ ศบค.คุมเข้มคนไทยและต่างชาติ เดินระระยะไกล เครื่องบิน - รถไฟ - บขส. ต้องรับวัคซีน 2 โดส จี้หน่วยงานตรวจหลักฐานก่อนจำหน่ายบัตรโดยสาร

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเตรียมเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยระบุว่า รัฐบาลมีแผนจะเปิดประเทศ แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่หนึ่งวันที่ 1 พ.ย.2564 ระยะที่สอง 1 ธ.ค.2564 และระยะที่สาม 1 ม.ค.2565 ซึ่งปัจจุบันกระทรวงฯ ได้เตรียมพร้อมมาตรการด้านคมนาคมขนส่งเพื่อรองรับการเดินทางที่จะเพิ่มขึ้น

สำหรับมาตรการด้านคมนาคมที่จะรองรับการเปิดประเทศระยะที่หนึ่ง 1 พ.ย.นี้ เนื่องจากเป็นการเปิดรับนักนักท่องเที่ยวจากประเทศความเสี่ยงต่ำและเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจ เพื่อเข้ามายังประเทศไทย จำนวน 10 ประเทศ อาทิ จีน เยอรมัน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ สิงคโปร์ และออสเตรเลีย เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจ กระทรวงฯ เตรียมเสนอขอศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค.ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อปรับมาตรการสาธารณสุขควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระบบการเดินทางของคนไทยให้ เป็นมาตรฐานเดียวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

“ตอนนี้ผมได้มอบให้ปลัดกระทรวงคมนาคมเตรียมข้อมูลเพื่อไปหารือกับ ศบค.ในการกำหนดมาตรการด้านสาธารณสุขของคนไทยที่จะเดินทางในช่วงเปิดประเทศ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับต่างชาติ เพื่อสร้างความมั่นใจ เนื่องจากเราตรวจสอบเพื่อไม่ให้มีเชื้อเข้ามาในประเทศ เราก็ควรคุมเข้มไม่ให้มีการแพร่ระบาด สร้างความมั่นใจด้วย”

อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ จะเสนอมาตรการด้านสาธารณสุข คัดกรองคนไทยเข้าใช้ระบบขนส่งมวลชน นำร่องที่เป็นระบบขนส่งทางไกล ประกอบด้วย สายการบิน รถไฟทางไกล และบริการของบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. โดยคนไทยจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส และต้องมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบ ระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยทุกครั้ง

 

 

นายศักดิ์สยาม ยังระบุด้วยว่า ผมมองว่ามาตรฐานด้านสาธารณสุขของคนไทย และต่างชาติควรเป็นมาตรฐานเดียวกัน คนไทยก็ต้องฉีดครบ 2โดส ถ้าไม่ครบไม่ให้เดินทาง เราต้องสร้างความปลอดภัยในคนไทยในประเทศด้วย มิฉะนั้นจะเกิดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดจากการเปิดประเทศ รวมทั้งต้องสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาด้วย ไม่ใช่ให้คนไทยเอาเชื้อไปติดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา จะถือว่านโยบายเปิดประเทศล้มเหลว

“ตอนนี้ผมได้กำชับระบบคมนาคมให้ตรวจสอบหลักฐานการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส และผลการตรวจหาเชื้อ หากไม่มีหลักฐานส่วนนี้ ก็จำเป็นต้องปฏิเสธการจำหน่ายบัตรโดยสาร เพราะตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขเรามีวัคซีนเพียงพอ ในปีนี้จะมีวัคซีน 120 ล้านโดส และปี 2565 อีก 60 ล้านโดส ดังนั้นเมื่อวัคซีนเรามีเพียงพอ ก็ควรมีมาตรฐานเดียวกันกับต่างชาติ”