ก.ล.ต. เตือนระวังใช้บริการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต

ก.ล.ต. เตือนระวังใช้บริการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต

ก.ล.ต. เตือนประชาชนและผู้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ระวังมัดระวังการใช้บริการกับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากต่างประเทศ เนื่องจากจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) ผู้ที่ให้บริการซื้อขาย แลกเปลี่ยน รับฝาก โอน ถอนเงิน หรือทำธุรกรรม ที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย ต้องเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายดังกล่าว โดยผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย  

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษ Binance* ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากต่างประเทศ กรณีให้บริการที่เข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 26 แห่ง พ.ร.ก. ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลฯ 

ก.ล.ต. เตือนระวังใช้บริการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต

“ก.ล.ต. จึงขอเตือนประชาชนและผู้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้ระมัดระวังการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล  
รับฝาก โอน ถอนเงิน หรือทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลกับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากต่างประเทศ เนื่องจากจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกหลอกลวง (scam) อีกด้วย” เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว 

สำหรับผู้สนใจสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th  
หัวข้อ สินทรัพย์ดิจิทัล หรือทางแอปพลิเคชัน “SEC Check First” และหากมีข้อสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับ 
การดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดแจ้งที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” โทร. 1207 หรือผ่านช่องทางเฟซบุ๊กเพจ

“สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. เพื่อการตรวจสอบในเชิงลึก ในกรณีที่ตรวจพบว่า 
มีการกระทำอันเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ และหากเข้าข่ายการกระทำที่อาจผิดกฎหมายอื่น ก.ล.ต. มีกระบวนการในการประสานงานกับหน่วยงาน 
ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป