ทอท. ทบทวนกรอบเงินกู้เสริมสภาพคล่อง หลังแอร์ไลน์ต่างชาติยังไม่ฟื้น

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า สถานะทางการเงินของ ทอท. ในขณะนี้ มีกระแสเงินสดในมือเหลืออยู่ราว 1.1 หมื่นล้านบาท ลดลงจากช่วงก่อนเกิดโควิด -19 ที่มีกระแสเงินสด 7.7 – 7.8 หมื่นล้านบาท ประกอบกับการฟื้นตัวของปริมาณผู้โดยสารที่ยังไม่กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ทอท.จึงคาดว่าจะมีการทบทวนกรอบกู้เงินเสริมสภาพคล่องเพิ่มเติมจากเดิมที่เคยผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ในวงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท

“บอร์ดมีมติไปก่อนหน้านี้ให้ ทอท.เติมเงินกู้ 2.5 หมื่นล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4 นี้ จะต้องกู้แน่นอน แต่จะเต็มวงเงินที่เคยขออนุมัติไว้หรือไม่จ้องขอดูตัวเลขการเดินทางที่จะเกิดขึ้นในช่วงเปิดประเทศเดือน พ.ย.นี้ก่อน และจะต้องกู้เพิ่มหรือไม่ วงเงินกู้เพิ่มอีกเท่าไหร่ ก็คงต้องขอประเมินเปิดน่านฟ้า แต่มั่นใจว่าหากต้องกู้เพิ่มคงยังไม่ขออนุมัติในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ.นี้ เพราะช่วงต้นปีรายการเบิกจ่ายคงยังไม่เยอะ”

อย่างไรก็ดี การประเมินสถานการณ์ทางการเงินดังกล่าว ต้องติดตามควบคู่ไปกับสถานการณ์การฟื้นตัวของปริมาณผู้โดยสารที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูการท่องเที่ยวหลังจากนี้ โดยเฉพาะช่วงเดือน ธ.ค.2564 ซึ่งจะเป็นช่วงเทศกาลเที่ยวปีใหม่ โดยปัจจุบันต้องยอมรับว่า ทอท.ยังคงติดตามสถานการณ์และประเมินอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลตอบรับหลังการเปิดประเทศ

เนื่องจากปัจจุบัน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้เปิดให้สายการบินยืนยันเที่ยวบินเข้าไทยเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ตารางบินฤดูหนาว ซึ่งเริ่มต้นในเดือน ต.ค.นี้ ในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีสายการบินยกเลิกตารางบินแบ่งออกเป็น สายการบินสัญชาติไทยยกเลิกประมาณ 42% สายการบินต่างชาติ ยกเลิก 80% เช่นเดียวกับท่าอากาศยานดอนเมือง เที่ยวบินสัญชาติไทย ยกเลิก 33% และสายการบินต่างชาติ ยกเลิกทั้งหมด 100%

"ปี 2565 เงินสดจะช็อตมากที่สุด เพราะรายได้เข้าไม่แน่นอน เงินไหลออกมากกว่าเงินไหลเข้า จะต้องกู้เงินเพิ่มหรือไม่ คงต้องประเมินเปิดน่านฟ้า คุณภาพและปริมาณผู้โดยสารว่าจะกลับมาหรือไม่ ดังนั้นวิบากกรรมในตอนนี้กับเงินกู้ 2.5 หมื่นล้านบาท น่าจะพอ แต่ขอประเมินอีกทีหลังเปิดน่านฟ้า ส่วนปี 2566 น่าจะเป็นปีที่สถานการณ์กลับมาปกติ และหยุดขาดทุน" นายนิตินัย กล่าว