ดัชนีฯ อ่อนตัว เก็งกำไร: HANA TRUE CENTEL

ดัชนีฯ อ่อนตัว เก็งกำไร: HANA TRUE CENTEL

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ - ดัชนีฯ อ่อนตัว แนวรับ 1630 / 1620 จุด แนวต้าน 1640 / 1650 จุด หลังจากยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ กลับมาปรับสูงขึ้น

เพราะวิตกเงินเฟ้อที่เร่งขึ้น อาจส่งผลให้เฟดเร่งทำ QE Tapering ส่วนทางเทคนิค ดัชนีฯ มีแนวโน้มที่จะพักฐาน เพื่อลดความร้อนแรงจากภาวะ Overbought ก่อนที่จะปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ 1657 จุด อีกครั้ง แนะนำกลยุทธ์ Buy on Dips

หุ้นแนะนำ พอร์ตหุ้นใหญ่ Big Tactical Play (SET100 Index) และพอร์ตหุ้นเล็ก Small Top Picks (Non-SET100 Index) โดยผลทดสอบในอดีตที่ผ่านมา พบว่า พอร์ตลงทุนดังกล่าวต่างให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด หุ้นแนะนาสาหรับพอร์ต Big Tactical Play ได้แก่ TQM ESSO CENTEL IVL SCB SAWAD MINT TRUE และหุ้นแนะนาสาหรับพอร์ต Small Top Picks ได้แก่ SMPC TPIPL SPG

+ปัจจัยบวก: 1) การประชุมศบค. ชุดใหญ่ที่เกิดขึ้นวันที่ 10 ก.ย. มีแนวโน้มผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติม หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อปรับตัวลดลง ซึ่งส่งผลในเชิงบวกต่อทั้งภาคเศรษฐกิจจริงและบรรยากาศในการลงทุนตลาดหุ้น 2) ค่าการกลั่นมีแนวโน้มฟื้นตัว หลังจากทางซาอุดิอาระเบียลดราคาขายน้ำนให้กับผู้ซื้อน้ำมันในเอเชีย ส่งผลให้ต้นทุนของโรงกลั่นลดลง เป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่น ซึ่งมีน้ำหนักต่อดัชนีฯ สูง

-ปัจจัยลบ: 1) การกลับมาแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ อาจส่งผลทำให้นักลงทุนบางส่วนมีแนวโน้มขายทำกำไร หรือเลือก wait and see เพื่อรอ สัญญาณจากประธานเฟด สาขาต่าง ๆ ผลประชุม ECB ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการจ้างงานในวันพฤหัสฯ 2) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มชะลอการแข็งค่า แม้จะยังไม่เห็นสัญญาณของเงินทุนไหลออก ปัจจัยดังกล่าวสะท้อนถึงการชะลอการเข้าลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้ระยะสั้นดัชนีฯ มีแนวโน้มที่จะพักฐาน

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตามวันนี้

- Opportunity Day ได้แก่ PF MODERN MEGA ICN SISB GPI SONIC BJC HTC

- ตัวเลข GDP Growth ของญี่ปุ่น ประจำ 2Q21 คาดว่าจะพลิกกลับมาเป็น 0.4% จาก 1Q21 หดตัว -0.9%

- การประชุมของธนาคารกลางแคนนาดา คาดว่าจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.25%

- ตัวเลข JOLT’s Job Openings ประจำเดือน ก.ค. คาดว่าจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 9.9 ล้านตำแหน่ง

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบต่อเนื่อง: ดัชนีฯ มีความพยายามดีดตัวขึ้นเหนือแนวต้านสำคัญบริเวณ 1657 จุด ก่อนที่จะเผชิญแรงเทขายตลอดทั้งวันและปิดไปที่ 1636.45 จุด ลดลง -11.92 จุด วอลุ่มซื้อขาย 1.01 แสนล้านบาท นำลงโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -2.55% กลุ่มธนาคาร -1.85% กลุ่มพาณิชย์ -0.79% และกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค -0.73% หุ้นบวก >4% THCOM TRUE EFORL APURE TIPH MDX CAZ CHO T HPT STOWER COLOR TWZ SGF TH TRC หุ้นลบ >4% PSL DOHOME B TCC SIRI RPC CGD SDC ITD RBF AJA SINGER META TGPRO XO

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละและยุโรปปิดลบ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน DJIA ลดลง -0.76% (269.09 จุด) S&P500 -0.34% ในขณะที่ NASDAQ +0.07% หลังจาก นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังเคสผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่กลับมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ CAC40 -0.26% DAX -0.56% และ FTSE -0.53% หลังจากนักลงทุนคาดว่า ECB จะมีการตัดสินใจลดวงเงิน QE ในการประชุมวันพฤหัสนี้

- น้ำมันและทองคำปิดลบ: WTI ปิดลดลง -94 เซนต์ ปิดที่ 68.35 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล BRENT ลดลง -53 เซนต์ ปิดที่ 71.69 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล โดยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าและการปรับลดราคาขายน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย เป็นปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันในคืนที่ผ่านมา ส่วนราคาทองคำร่วงแรง -USD35.20 ปิดที่ USD1,798.50/ออนซ์ เป็นผลจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น

ประเด็นสำคัญ

- USD/THB: เงินบาทปิดตลาดเย็นวานนี้อยู่ที่ 32.62 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 32.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อ่อนค่าเล็กน้อย คาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหววันนี้อยู่ที่ 32.50-32.65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ

- UK: ไมเคิล ซอนเดอร์ส สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยในวันนี้ว่า BoE อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หากเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้น

+ Australia: RBA มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% และประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรลงสู่ระดับ 4 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย/สัปดาห์ ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป จนถึงกลางเดือน ก.พ. ปีหน้า เป็นอย่างน้อย หลังจากคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจออสเตรเลียจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้น อาจต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

+ China: ศุลกากรจีน รายงานยอดส่งออกเดือน ส.ค. พุ่งขึ้น 25.6% ด้วยแรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ทั่วโลก ซึ่งช่วยชดเชยผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ของ COVID-19 ในจีน รวมทั้งปัญหาติดขัดด้านอุปทาน

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: SMPC SPG GULF

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: HANA TRUE CENTEL

Derivatives: แนะปิด Long S50U21 ออกไปก่อน (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)