LPH - ถือ (3 ก.ย.64)

LPH - ถือ (3 ก.ย.64)

2H64 จะยังคงแข็งแกร่ง

Event

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY64F

lmpact

ผลประกอบการ 1H64: ผลการดำเนินงานแข็งแกร่งมาก

ผลประกอบการของ LPH ดีขึ้นมาตั้งแต่ 2H63 หลังจากผ่านช่วงที่ COVID-19 ระลอกแรกไปในเดือนเมษายน 2563 หลังจากนั้น โมเมนตั้มของ LPH ยังคงเป็นบวกต่อเนื่องจากการที่ COVID-19 กลับมาระบาดระลอกสองและสาม ทั้งนี้ กำไรสุทธิของ LPH ใน 2Q64 ออกมาแข็งแกร่งมากที่ 85 ล้านบาท
(จากขาดทุนสุทธิใน 2Q63, +109.8% QoQ) คิดเป็น 35% ของประมาณการกำไรเดิมในปีนี้ของเรา โดยผลประกอบการ 2Q64 ออกมาดีกว่าประมาณการของเรา 25% (ไม่มี consensus) ในขณะเดียวกันกำไรสุทธิในงวด 1H64 เพิ่มขึ้นเป็น 125 ล้านบาท (+231.6% YoY) เนื่องจาก i) margin เพิ่มขึ้นจากการตรวจ COVID-19 เพิ่มขึ้น (จาก <100 ราย/วันในเดือนเมษายน 2564 เป็น >200 รายใน 2Q64 และเพิ่มเป็นประมาณ 300 รายในเดือนกรกฎาคม, 200 รายในเดือนสิงหาคม และ >100 รายในขณะนี้) และการให้บริการรักษาพยาบาล ii) บริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น บริษัทจึงประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 1H64 ที่ 0.10 บาท/หุ้น (กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 9 กันยายน)

คาดว่ากำไรใน 3Q64 จะทำสถิติสูงสุดใหม่

เราคาดว่ากำไรของ LPH จะเร่งตัวขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ใน 3Q64 จากสถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าสถานการณ์น่าจะเลวร้ายที่สุดในไตรมาสนี้ ทั้งนี้ จำนวนยอดผู้ติดเชื้อใหม่ถึงจุดสูงสุดที่ 23,418 รายเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม โดยยอดผู้ติดเชื้อเฉลี่ยสูงสุดที่ 20,658 ราย/วันในช่วงวันที่ 1–15
สิงหาคม ก่อนที่จะลดลงมาเหลือไม่ถึง 20,000 ราย/วัน ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานแข็งแกร่งที่สุดใน 3Q64 เนื่องจาก i) จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยมีจำนวนเตียงไม่พอรองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 ii) อัตรากำไรแข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยมี intensity สูง และ iii)
คุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY64F ขึ้นอีก 25.6% สำหรับ FY21F

เมื่ออิงตามผลประกอบการ 1H64F เราจึงได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY64F โดยเราได้ i) ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2564F ขึ้นจากเดิมอีก 7.2% ii) ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี FY64F เป็น 30.0% (จากเดิม 28.0%) เพื่อสะท้อนถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งเกินคาด
เนื่องจากผู้ป่วยมี intensity สูงขึ้น YoY และ iii) ปรับลดสัดส่วน SG&A/ยอดขาย ลงเหลือ 14.0% (จาก 15.0%) ซึ่งทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2564F ของเราอยู่ที่ 307 ล้านบาท (+115.1% YoY) และปี 2565F อยู่ที่ 242 ล้านบาท (-21.4% YoY)

Valuation & Action

เราชอบแนวโน้มที่ดีขึ้นของ LPH แม้ว่าการระบาดของ COVID-19 จะลดลงในปีหน้า เราคาดว่า LPH จะได้โมเมนตั้มด้านบวกจากการให้บริการวัคซีนทางเลือก (40,000 โดสในรอบแรก) เรายังคงแนะนำ “ถือ” LPH โดยคงราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ที่ 7.10 บาท (ใช้ WACC ที่ 8% และ TG ที่ 2.0%)

Risks

COVID-19 ระบาด, การแทรกแซงของรัฐบาล, ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่