BCPG - ถือ (10 ส.ค.64)

BCPG - ถือ (10 ส.ค.64)

กำไร 2Q แกร่งจากโรงไฟฟ้าน้ำและความร้อนพิภพ

  • 2Q21 Highlights

กำไรสุทธิ 2Q ที่ 565 ลบ. (0.21บาท EPS), +8% qoq แต่ +59% yoy

กำไรดีกว่าคาดการณ์ของเรา 9% แต่ต่ำกว่าตลาด 2% หากไม่รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายพิเศษ กำไรปกติอยู่ที่504ลบ. +3% qoq และ +34% yoy การดำเนินงานในภาพรวมดีขึ้น qoq หนุนจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาว (น้ำสาน 3A, 3B) จากปัจจัยด้านฤดูกาลและพลังงานความร้อนพิภพในอินโดฯเนืองจากวันปิดซ่อมบำรุงน้อยลง รายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาห์และพลังงานลมในไทยลดลง 5% qoq จากความเข้มของแสงแดดและความเร็วลมลดลง ค่าการผลิต (CF) ของโรงไฟฟ้าโซลาห์ลดลงสู่ 16.9% จาก 17.4% ใน 1Q ส่วนค่า CF ที่โรงไฟฟ้าลมลดลงอย่างมากสู่ 11.2% จาก 17.1% ใน 1Q โรงไฟฟ้าน้ำสาน 3A และ 3B ในลาวมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นโดยมีค่า CF ที่ 41.0% จาก 27.7% ใน 1Q BCPG มีส่วนแบ่งกำไร 157ลบ. +12% qoq และ +53% yoy หนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นที่โรงไฟฟ้าความร้อนพิภพในอินโดฯ ซึ่งมีค่า CF เพิ่มสู่ 96.9% จาก 92.1% ใน 1Q โรงไฟฟ้าลมในฟิลิปปินส์ มีส่วนแบ่งกำไร 4.5ลบ. (จาก 19ลบ. ใน 1Q) เนื่องตากความเร็วลมลดลงส่วนโรงไฟฟ้าความร้อนพิภพสร้างส่วนแบ่งกำไร 153ลบ. (เทียบกับ 122ลบ. ใน 1Q)

 

  • Operational outlook

โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำจะเติบโตใน 2H21

ค่า CF ของน้ำสาน 3A และ 3B เพิ่มเป็น 78% ในก.ค.และส.ค. คาดโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ พลิกเป็นกำไร 150-180ลบ. หรือสูงกว่านั้นจากขาดทุนประมาณ 40ลบ. ใน 1H ชดเชยผลกำไรโรงไฟฟ้าโซลาห์ในไทยอ่อนแอลงจากค่าความเข้มแสงที่ลดลงในฤดูฝน

 

  • ถือ ราคาเป้าหมาย 14.5บาท

เราไม่เห็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น โรงไฟฟ้าลม Swan ล่าช้าไปสองปีเป็นปี 2025 เนื่องจากการดำเนินงานสายส่งไฟฟ้า 500KV จากลาวไปเวียดนาม และยังเป็นเรื่องท้าทายสำหรับ BCPG ที่จะหากำลังการผลิตเพิ่มเพื่อเติมในช่วงช่องว่างกำไรช่วงadder 8บาท/kwh ของโรงไฟฟ้าโซลาห์สามแห่งในไทยหมดลงในปี 2022-25 ราคาเป้าหมายของเราเทียบเท่า 17x FY21F PE และ 1.6x PBV (9% ROE)