SISB - ซื้อ (17 มิ.ย.64)

SISB - ซื้อ (17 มิ.ย.64)

คาดว่าจะโตลดลงในปี FY64-65F

Event

ปรับประมาณการหลังจาก COVID-19 ดระลอกสาม

lmpact

ความสามารถในการทำกำไรยังแข็งแกร่ง แม้ว่า COVID-19 ระบาดต่อเนื่อง

กำไรสุทธิของ SISB ใน 1Q64 ออกมาน่าประทับใจที่ 71 ล้านบาท (+20.0% YoY, +3.7% QoQ) ทำสถิติสูงสุดรายไตรมาสใหม่ ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานใน 1Q64 สะท้อนแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการกลับมาเปิดการเรียนการสอนตามปกติ โดยมีจำนวนนักเรียนระดับชั้นประถมและมัธยมเพิ่มขึ้น (>66% ของจำนวน
นักเรียนทั้งหมด) โดยอัตรากำไรขั้นต้นออกมาดีเกินคาดที่ 49.4% (สูงกว่าประมาณการของเราที่ 46.5%) ในขณะที่โรงเรียนสามารถบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี เราประเมินว่าการที่ COVID-19 กลับมาระบาดช่วงปลายเดือนธันวาคม 2563 ไม่ได้ทำให้ประมาณการกำไรปีนี้มีความเสี่ยงด้าน downside อย่างมีนัยสำคัญจากรายได้จากค่าอาหารและกิจกรรมเพียงเดือนเดียว

ปรับลดประมาณการกำไรปี FY64-65 ลงเพื่อสะท้อนการไม่ปรับขึ้นค่าเทอมเป็นเวลาหนึ่งปี

ผู้บริหารของ SISB ประกาศว่า บริษัทจะไม่ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการศึกษาเป็นเวลาหนึ่งปี (ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564) จากการที่ COVID-19 กลับมาระบาดระลอกสาม นอกจากนี้ ทุก campus ของ SISB (ประชาอุทิศ, ธนบุรี และสุวรรณภูมิ) จะยังคงจัดให้นักเรียนเรียนออนไลน์ต่อไปตามปฏิทินการศึกษาปกติ (สิ้นสุด 30 มิถุนายน) เพื่อสุขภาพและความปลอดภัย ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการรายได้ปี FY64F ลงจากเดิม 11.6% เหลือ 1.11 พันล้านบาท (+5.7% YoY) และปี FY65F ลง 14.2% เหลือ 1.24 พันล้านบาท (+12.2% YoY) อย่างไรก็ตาม เราปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี FY64-65F ขึ้นเป็น 46.0% จากเดิม 43.5% และ 44.0% ตามลำดับ หลังจากที่อัตรากำไรขั้นต้นใน 1Q64 ออกมาดีเกินคาดที่ 49.4% นอกจากนี้ เรายังคงสมมติฐานสัดส่วน SG&A/รายได้ในปี FY64-65F ไว้ที่ 25.0% เนื่องจากบริษัทคุม SG&A ได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ 1Q64 ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2564F ลงเหลือ 234 ล้านบาท (+46.4% YoY) และปี 2565F เหลือ 266 ล้านบาท (+13.6% YoY)

แนวโน้มระยะยาวยังคงเป็นบวก

เรายังคงมองบวกกับ SISB ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจาก i) การขยายตัวของสาขาธนบุรีนับจากเดือนสิงหาคม 2564 และการเปิดสาขาใหม่ที่นนทบุรีปี 2566 ii) จำนวนนักเรียนมัธยมเพ่มขึ้น iii) การปรับเพิ่มค่าเล่าเรียนประมาณ 5% ต่อปี ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรของบริษัทในระยะยาว

Valuation & Action

ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ใหม่ที่ 11.50 บาท (อิงจาก P/E ปีFY65F ที่ 40x เท่ากับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา) จากเดิมที่ 14.10 บาท

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ และปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง