SCG รุกธุรกิจ 'พลาสติกรีไซเคิล' ซื้อหุ้น Sirplaste เจาะตลาดยุโรป

SCG รุกธุรกิจ 'พลาสติกรีไซเคิล' ซื้อหุ้น Sirplaste เจาะตลาดยุโรป

เอสซีจี เผยรายได้ไตรมาส 1 โต 15% แรงหนุนจากเศรษฐกิจโลกฟื้น รุก “เซอร์คูลาร์ อีโคโนมี” ซื้อหุ้น “ซีพลาสต์” ในโปรตุเกส เจาะตลาดเม็ดพลาสติกรีไซเคิลยุโรป รับเทรนด์ตลาดโลกเติบโตสูง

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCG เปิดเผยว่า ธุรกิจเคมิคอลส์ ได้ขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวคิด ESG เพื่อมุ่งสู่ “ธุรกิจปิโตรเคมีเพื่อความยั่งยืน” โดยเข้าสู่ธุรกิจที่ตลาดมีการเติบโตสูง เช่น ธุรกิจด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน ล่าสุด ได้เข้าสู่ธุรกิจด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในยุโรป ด้วยการลงนามสัญญาซื้อหุ้นบริษัท ซีพลาสต์ หรือ Sirplaste ผู้ประกอบธุรกิจและผู้นำด้านพลาสติกรีไซเคิลในประเทศโปรตุเกส ในสัดส่วน 70% 

ทั้งนี้ นอกจากจะส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนแล้ว ยังสามารถนำความได้เปรียบนี้ไปพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิลในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งขยายช่องทางการขายในตลาดยุโรปได้

“การลงทุนกับ ซีพลาสต์ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านเม็ดพลาสติกรีไซเคิล และมีตลาดในยุโรป ซึ่งมีเป้าหมายการดำเนินงานที่สอดรับกัน เอสซีจี ที่มีเม็ดพลาสติกเอชวีเอ เช่น เอสเอ็มเอ็ก ซึ่งเป็นตัวเพิ่มคุณภาพให้กับพลาสติกรีไซเคิล เมื่อได้ดำเนินการร่วมกันก็จะช่วยกระจายสินค้าไปในตลาดยุโรป ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก รวมทั้งการวิจัยพัฒนาร่วมกัน” นายรุ่งโรจน์ กล่าว

นอกจากนี้ โครงการขยายกำลังการผลิตของโรงงาน MOC Debottleneck ซึ่งธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี และ DOW ได้ร่วมมือกันดำเนินโครงการ ก่อสร้างแล้วเสร็จเร็วกว่าแผนและเริ่มทดลองดำเนินการผลิตแล้ว คาดว่าจะผลิตได้เต็มกำลังภายในเดือนพ.ค.2564 จะทำให้มีกำลังการผลิตโอเลฟินส์เพิ่มขึ้น 350,000 ตันต่อปี ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ทำให้กระบวนการผลิตมีต้นทุนการลงทุนที่ต่ำลง และยังทำให้ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ส่วนโครงการปิโตรเคมีครบวงจร Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) ที่เวียดนามคืบหน้าตามแผน 76% โดยจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในครึ่งปีแรกของปี 2566

นอกจากนี้ SCG อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างธุรกิจเคมิคอลส์ รวมถึงการเสนอขายหุ้น SCG Chemicals ต่อประชาชนทั่วไป เพื่อรองรับโอกาสในการขยายธุรกิจเคมิคอลส์ในอนาคต เช่น ความเป็นไปได้ในการขยายกำลังการผลิตในอาเซียนและการลงทุนอื่น ซึ่งคาดว่าการศึกษาและการปรับโครงสร้างจะเสร็จภายในสิ้นปี 2565