กรมท่าอากาศยาน อนุมัติ 3 เส้นทางบินใหม่ในประเทศ เชื่อมหัวเมืองและภูมิภาค

กรมท่าอากาศยาน อนุมัติ 3 เส้นทางบินใหม่ในประเทศ เชื่อมหัวเมืองและภูมิภาค

กรมท่าอากาศยานประชุมคณะกรรมการจัดสล็อตการบินภาคฤดูร้อนปี 2564 อนุมัติ 3 เส้นทางบินใหม่ บางกอกแอร์ลุยขอนแก่น และแม่สอด ขณะที่นกแอร์เปิดบินเชื่อมภูมิภาค เส้นทางเชียงใหม่ - แม่สอด

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการจัดสรรเวลา กรมท่าอากาศยาน ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการพิจารณาการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดสรรเวลาตารางการบินของท่าอากาศยานในสังกัด ทย. และสายการบินหรืออากาศยาน ให้ปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกันและสอดคล้องตามหลักปฏิบัติมาตรฐานของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association - IATA)

อย่างไรก็ดี ทย.ได้พิจารณาจัดสรรเวลากำหนดการบินประจำฤดูร้อน ประจำปี 2564 (28 มี.ค.-30 ต.ค.2564) ซึ่งมีสายการบินที่เปิดให้บริการในเส้นทางบินใหม่ จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่                                     

  1. เส้นทาง กรุงเทพฯ-ขอนแก่น ไปและกลับจำนวน 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ของสายการบิน Bangkok airways 
  2. เส้นทางกรุงเทพฯ-แม่สอด ไปและกลับ จำนวน 21 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ของสายการบิน Bangkok airways 
  3. เส้นทางเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ไปและกลับจำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ของสายการบินนกแอร์                                                    

รวมทั้งได้หารือเกี่ยวกับการกำหนดเวลาเปิด-ปิด ท่าอากาศยาน เพื่อให้สอดคล้องกับการให้บริการของสายการบินด้วย นอกจากนี้ ยังได้หารือการเตรียมความพร้อมในการรองรับการเปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศของท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี และท่าอากาศยานหัวหิน ซึ่ง ทุกท่าอากาศยานยืนยันความพร้อม และให้ความเชื่อมั่นในกระบวนการและมาตรการ พร้อมรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ หากมีการอนุญาตให้เปิดทำการบินได้

161552879040

สำหรับประเด็นการสนับสนุนสายการบินที่ทำการบินมายังท่าอากาศยานเบตง ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ออกมาตรการจูงใจให้สายการบินเปิดเที่ยวบินเส้นทางใหม่ ปี 2564 โดยจะลดค่าบริการขึ้นลงอากาศยานและค่าบริการที่เก็บอากาศยาน เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยลดลง 80% ในปีที่ 1 ลดลง 65% ในปีที่ 2 และลดลง 50% ในปีที่ 3 และลดค่าเช่าพื้นที่ภายในอาคาร สำหรับสำนักงานสายการบิน ในอัตรา 50% โดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่กรมธนารักษ์กำหนด เป็นระยะเวลา 3 ปี