KTC กำไรปี 63 ที่ 5.3พันล้าน คาดปี64ผลงานเติบโตสวย

KTC กำไรปี 63 ที่ 5.3พันล้าน คาดปี64ผลงานเติบโตสวย

เคทีซีประกาศกำไรสุทธิปี 63 กำไรลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท ขณะที่ปริมาณการใช้บัตรยังดีกว่าอุตสาหกรรม คาดผลการดำเนินงานปี64 ยังตั้งเป้าเติบโตทั้งปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรและพอร์ตลูกหนี้ พร้อมให้ความสำคัญกับการดูแลหนี้เสีย หวังผลงานดีกว่าปี63

    ล่าสุดบริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือKTC เปิดกำไรสุทธิสำหรับปี 2563 ภายใต้มาตรฐาน TFRS9 จำนวน 5,332 ล้านบาท โดยมีมูลค่ากำไรก่อนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของปี 2563 เท่ากับ 13,262 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 13,337 ล้านบาท
     ทั้งนี้ หากดูการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลที่เพิ่ม 5.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและ 2.8 % ส่งผลให้บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยรวม (รวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) ในปี 2563 มีมูลค่าเท่ากับ 14,167 ล้านบาท เพิ่มขึ้นที่ 4.1% จากปีก่อน
     ซึ่งเป็นอัตราเพิ่มที่ชะลอตัวลงจากงวดเก้าเดือน ที่เคยเพิ่มขึ้นที่ 7.3% ซึ่งเป็นผลกระทบจากการลดเพดานอัตราดอกเบี้ยในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปีและมีผลให้รายได้ดอกเบี้ยในไตรมาสที่สี่ลดลงไปบ้าง แต่บริษัทยังมีฐานสมาชิกบัญชีที่เคลื่อนไหวทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิมและสมาชิกกลุ่มดังกล่าวยังคงความสามารถในการสร้างรายได้ดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง

     ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียม (ไม่รวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) สำหรับปี 2563 ลดลงที่ -11.0% หรือมี
มูลค่าเท่ากับ 4,478 ล้านบาท
ด้านปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของบริษัทในงวดปี 2563 มีอัตราลดลงที่ -7.7% และสำหรับงวด 11 เดือนอยู่ที่ -8.3% ขณะที่อุตสาหกรรมติดลบที่ -13.1%

.    ทั้งนี้หากเปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนแปลงรายไตรมาสตลอดปีนี้พบว่า อุตสาหกรรมมีอัตราเปลี่ยนแปลงในไตรมาส 1 ไตรมาส 2และไตรมาส 3 หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -0.7% -25.8% และ -12.5% ตามลำดับ

     ขณะที่ ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่ดีกว่าอุตสาหกรรมที่ 2.2% -21.0% และ -5.8% ตามลำดับ

     โดยในรอบปีบริษัทมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรรวมทั้งสิ้น 197,087 ล้านบาท โดยบริษัทมีฐานสมาชิกใกล้เคียงกับปีก่อนหน้ามีจำนวนทั้งสิ้น 3.4 ล้านบัญชี แบ่งเป็น บัตรเครดิต 2,575,684 บัตร (ขยายตัว2.6% และสินเชื่อบุคคลจำนวน 814,329 บัญชี ติดลบ 8.3% จากการปิดบัญชีที่ไม่เคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา

     ด้านสินเชื่อรวมขยายตัวเพิ่มขึ้น 4.3% หรือมีจำนวนเท่ากับ 90,149 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นลูกหนี้บัตรเครดิตรวมเท่ากับ 60,235ล้านบาท และลูกหนี้สินเชื่อบุคคลรวมเป็น 29,915 ล้านบาท

    สำหรับแผนงานในปี 2564 ผู้บริหารระบุว่า แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงเข้ามากระทบในการดำเนินธุรกิจ แต่บริษัทยังคงวางเป้าหมายให้มีการเติบโตในทั้งปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรและพอร์ตลูกหนี้รวม เน้นคุณภาพของสินทรัพย์โดยให้ความสำคัญต่อการควบคุมการติดตามทวงถามหนี้และดูแลหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

     ทั้งนี้บริษัทเชื่อมั่นว่าผลดำเนินงานของบริษัทจะมีกำไร มีอัตราการเติบโตของกำไรในระดับที่ยอมรับได้และดีกว่าปีที่ผ่านมา