EA ลุยรถบัสไฟฟ้าดันรายได้ 64 มากกว่า 1.5 หมื่นล้าน-เล็งยื่นบีโอไอรอบใหม่

EA ลุยรถบัสไฟฟ้าดันรายได้ 64 มากกว่า 1.5 หมื่นล้าน-เล็งยื่นบีโอไอรอบใหม่

EAเล็งยื่นขอบีโอไอหลังเปิดส่งเสริมลงทุน“อีวี”รอบใหม่  มั่นใจรายได้ปี64 สูงกว่าปีนี้ที่คาดอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้าน จากปรับแผนหันผลิตรถบัสไฟฟ้าจากความต้องการสูง หวังทยอยส่งมอบรถยนต์-แท็กซี่ไฟฟ้า ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าอยู่ระหว่างหาโอกาสลงทุนโรงไฟฟ้า

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนการผลิตยานพาหนะไฟฟ้า (อีวี) รอบใหม่ ซึ่งทางบริษัทจะเข้าไปพิจารณารายละเอียดเงื่อนไข ซึ่งหากสิทธิประโยชน์ดีกว่าครั้งก่อน หรือในส่วนไหนที่บริษัทยังไม่ได้ไปขอส่งเสริมการลงทุน บริษัทก็จะเข้าไปยื่นขอในรอบใหม่นี้

“รถยนต์ไฟฟ้า เรือไฟฟ้า และโรงงานแบตเตอรี่ บริษัทได้ขอบีโอไอไปแล้ว ซึ่งบริษัทจะเข้าไปดูรายละเอียดที่บีโอไอเปิดส่งเสริมอีวีรอบใหม่ว่ามีอะไรส่วนไหนที่เรายังไม่ได้ไปขอเราก็จะขอเพิ่ม โดยแผนธุรกิจจากนี้เน้นธุรกิจอีวี เพราะมีแนวโน้มเติบโตสูง และมาร์จินก็สูงเช่นกัน”

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ เฟสแรก กำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องจักรและคาดว่าจะมีการเริ่มผลิตในเดือนก.พ.2564 ซึ่งกำลังการผลิตส่วนใหญ่จะมาใช้ในรถยนต์ ,เรือไฟฟ้า และรถบัสไฟฟ้าของบริษัท

แผนการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 5 พันคัน (แท็กซี่-รถเก๋ง)ได้เลื่อนไปส่งมอบออกไปเป็นปีหน้า เนื่องจากโควิด-19 ระบาด ซึ่งบริษัทหวังปีหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดดีขึ้น บริษัทจะมีการส่งมอบได้ทั้งหมด ขณะที่เรือไฟฟ้าผลิตแล้ว 2 ลำ และเพิ่มเป็น 10 ลำในปีนี้ ซึ่งบริษัทจะมีการทดลองให้บริการ 2 เส้นทาง และคาดว่าในไตรมาส 1 ปี 2564 เพิ่มเป็น 30 ลำ

นายอมร กล่าวว่า  คาดรายได้ปี64 สูงกว่าปีนี้ ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท เนื่องจากจะมีรายได้จากธุรกิจใหม่ คือ ธุรกิจอีวี ที่โรงงานผลิตแบตเตอรี่เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ มีการส่งมอบรถยนยนต์ รถแท็กซี่ รถบัสไฟฟ้า และเรือไฟฟ้าให้บริการ ขณะที่ยอดขายสารเปลี่ยนสถานะ(PCM)จะเพิ่มขึ้น จากที่บริษัทเตรียมที่จะส่งออกล็อตแรกแล้วเดือนนี้

ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ  เช่น เวียดนาม และเมียนมา หลังจากที่ผ่านมาได้ยกเลิกการเข้าประมูลโรงไฟฟ้าที่เมียนมา 4 โครงการ เพราะผลตอบแทนต่ำ ส่วนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้า นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนศึกษา 

สำหรับงบลงทุนปี 2564 เบื้องต้นใช้ประมาณ 3-5 พันล้านบาทซึ่งเป็นการลงทุนโครงการต่อเนื่องจาก2563 ที่เลื่อนใส่เงินลงทุนเป็นปี2564

นางสาวออมสินศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร EA กล่าวว่า บริษัทได้ปรับแผนหันมาเน้นประกอบรถบัสไฟฟ้ามากขึ้น เนื่องจากมีความต้องการจากผู้ให้บริการเดินรถโดยสาร ซึ่งขณะนี้มีคำสั่งซื้อมาแล้ว และเตรียมที่จะส่งมอบภายในไตรมาส1ปี 2564 และทางบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน)หรือ NEX ซึ่งบริษัทเข้าไปถือหุ้น40%เตรียมที่จะเข้าประมูลรถบัสไฟฟ้า ที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) จำนวน 2,511 คัน จะเปิดประมูลในช่วงปลายปีนี้  ซึ่งหากชนะมูล จะส่งผลดีต่อบริษัท  ซึ่งปัจจุบันโรงประกอบรถขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทร่วมทุนกับNEXจะเสร็จแล้วเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์เดือนม.ค.2564

ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าบริษัทเตรียมออกรถรุ่นใหม่ และปรับราคาลงมา เพราะ โรงแบตเตอรี่ของบริษัทเสร็จแล้ว เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น