จับตา “การเมือง” ปัจจัยเสี่ยง ทุบซ้ำอุตฯโฆษณาดิ่งหนัก
3 ปัจจัยเสี่ยง ซ้ำเติมอุตสาหกรรมโฆษณา การชุมนุมทางการเมือง โควิดระบาดระลอกสอง และโควิดทุบสถานการณ์โลกสะเทือนเศรษฐกิจ ธุรกิจไทย เอ็มไอ เผยปี 63 เงินโฆษณาสะพัดกว่า 71,000 ล้าน เป็นจุดต่ำสุดรอบ 20 ปี
โควิด-19 ระบาดและช็อกเศรษฐกิจ ธุรกิจทั่วโลก เนื่องจากหลายประเทศต้องงัดมาตรการ “ล็อกดาวน์”มาสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสเป็นเวลาหลายเดือน เมื่อผู้ประกอบการ แบรนด์ค้าขายสินค้าลำบาก ยอดขายไม่เข้าเป้า ที่สุดต้อง “หั่นงบโฆษณา” เพราะเป็นการ “รัดเข็มขัด” ที่เห็นผลทันตา
ปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้อุตสาหกรรมโฆษณาดิ่งหนัก เป็นประวัติการณ์ เพราะนับตั้งแต่เดือนเม.ย.จนถึงเดือนก.ค. ตลาด“ติดลบ”ต่อเนื่อง ทว่าภายหลังการคลายล็อกดาวน์ธุรกิจ แบรนด์เล็กใหญ่เริ่มหันมาใช้จ่ายเงินโฆษณาอีกครั้ง ทำให้ตัวเลขติดลบค่อยๆดีขึ้น
ส่วนทั้งปี 2563 จะเป็นอย่างไร ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผนและกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จำกัด หรือ MI เปิดบทสนทนาให้ใจชื้นเมื่อประเมินว่าอุตสาหกรรมโฆษณาจะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในไตรมาส 3-4 แบรนด์เริ่มเทงบซื้อสื่ออีกครั้ง
“เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาปลายไตรมาส 3 ต่อเนื่องไตรมาส 4ปีนี้เพราะแบรนด์ต่างๆเริ่มเห็นทิศทางบวกและเชื่อมั่นในสถานการณ์โควิด-19 มากขึ้น จึงเริ่มจัดกิจกรรมสื่อสารการตลาดผลักดันยอดขายช่วงโค้งสุดท้ายปี หลังจากอั้นมานาน”
ทว่า การใช้จ่ายเงินนาทีนี้ทุกบาททุกสตางค์ต้อง “คุ้มค่าการลงทุน" การเลือกว่าเงินจะไหลไปยังสื่อประเภทไหนจึงต้องให้วัดผลได้ และแน่นอนว่า “สื่อออนไลน์” คือคำตอบในการโกยเงินต่อเนื่อง
ขณะที่สื่อทรงพลัง ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดย “ทีวี” ยังเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจะดึงเม็ดเงินให้ทีวีอู้ฟู่! เหมือนอดีตเป็นเรื่องยาก กลับกันเห็นการ “หดตัว” อย่างต่อเนื่อง
อีกสื่อที่มาแรงคือ “สื่อนอกบ้าน” เพราะสามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ หรือ Targeted เช่นเดียวกับ “ออนไลน์” ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคปัจจุบันอย่างมาก
ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด เศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้ทั้ง 3 สื่อ เผชิญการทรุดตัว เพราะเมื่อพิจารณาอุตสาหกรรมโฆษณา 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.) ของปีนี้ หักส่วนลดหลังบ้านต่างๆแล้ว มูลค่าอยู่ที่ 40,727 ล้านบาท ติดลบ 20.09% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หรือเม็ดเงินหายไป 10,763 ล้านบาท เฉพาะก.ค.เดือนเดียว ที่ธุรกิจคลายล็อกดาวน์ สื่อหลายหมวดยัง “ติดลบ” โรงภาพยนตร์ ติดลบ 60% สิ่งพิมพ์ ติดลบ 50% สื่อนอกบ้าน ติดลบ 15% วิทยุ ติดลบ 10% สื่อที่เริ่มกลับมาบวกคือทีวี บวก10% ออนไลน์ บวก 25%
ทว่า ประเมินทั้งปี 2563 ภาพรวมยังคง “ติดลบ” ราว 20%มีมูลค่ารวม71,823 ล้านบาท!
"คาดว่าปีนี้เม็ดเงินอุตสาหกรรมโฆษณาจะมีมูลค่าไม่เกิน 72,000 ล้านบาท ถือว่าแตะจุดต่ำสุดในรอบ 20 ปี ใกล้เคียงกับวิกฤติต้มยำกุ้ง ภายใต้ภูมิทัศน์สื่อที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่าง 2 ยุค”
โควิดยังทุบ!สื่อออนไลน์ให้ “โตต่ำมาก”ในรอบทศวรรษ จากที่ผ่านมาเติบโต 2 หลัก และก้าวกระโดด โดยคาดการณ์อยู่ที่ 0.5% เท่านั้น มีมูลค่า 19,653 ล้านบาท
ขณะที่แนวโน้มปี 2564 อาจเห็นตลาดกลับมา และมีโอกาสลุ้นเม็ดเงินโฆษณาจะทะลุ 72,000 ล้านบาท แต่ถ้าถามถึงตัวเลข “แสนล้านบาท” เหมือนในอดีต “ภวัต” ยอมรับว่าริบหรี่มาก เพราะสถานการณ์สื่อเปลี่ยนแปลงมหาศาล อีกทั้งโควิดคลี่คลาย แต่สึนามิที่กระทบอุตสาหกรรมลูกใหญ่ หนีไม่พ้น “ดิจิทัล ดิสรัปชัน” ซึ่งสะเทือนสื่อดั้งเดิมมาหลายปี และยังคงเป็นคลื่นที่กระทบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ปี 2563 อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาจะแตะจุดต่ำสุด แต่ยังมีปัจจัยที่ยากจะคาดเดาและควบคุม 3 ประการ ที่พร้อมจะทุบ!ตลาดให้ดิ่งอีก ได้แก่ 1.การระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้องในไทย 2.การป้องกันการระบาดของโควิด-19 ระลอกสอง หลังผ่อนคลายล็อกดาวน์ รวมถึงการเปิดประเทศ และ3.สถานการณ์การชุมนุมและเรียกร้องทางการเมือง
“3ปัจจัยข้างต้นส่งผลโดยตรงต่อการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาและเศรษฐกิจไทยในภาพรวม”
ทั้งนี้ การชุมนุมทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ที่ผ่านมา ส่งผลให้แบรนด์ชะลอการทำตลาดผ่านแพลตฟอร์ม“ทวิตเตอร์”ลงไปบ้าง เนื่องจากสื่อสารการตลาดใดออกไปแฮชแท็ก(#)ไม่สามารถเข้าไปอยู่ในกระแสหรือแทรกตัวติดอันดับความนิยม(Trending)ได้เลย โดยทวิตเตอร์ถือเป็นแพลตฟอร์มที่แบรนด์มักทำแคมเปญสื่อสารตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ เพื่อให้เกิดการบอกต่อ(Viral) และนำไปขยายผลการซื้อสินค้าผ่านสื่ออื่นๆต่อไป