ส่องบริการ 'ทำความสะอาด' ออนไลน์ ช่องทางทำเงินของ 'ลูกจ้างทำงานบ้าน' ยุคใหม่

แม้จะมีหุ่นยนต์ทำความสะอาดให้เลือกซื้อในท้องตลาดหลากหลายรูปแบบ แต่บริการ "ทำความสะอาด" จากบรรดา "แม่บ้านมือโปร" ยังคงตอบโจทย์ผู้ใช้บริการมากกว่าการใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติ หรือหาอุปกรณ์มาช่วยทุ่นแรงในการทำงานบ้าน เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญกว่า แต่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ที่ช่วยสร้างความประทับใจในการบริการได้มากกว่า

"ลูกจ้างทำงานบ้าน" จึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีความสำคัญ และควรได้รับสิทธิต่างๆ เสมือนกับอาชีพอื่นๆ ในสังคม นี่จึงเป็นที่มาของ "วันลูกจ้างทำงานบ้านสากล" ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มิ.ย. ของทุกปี

ข้อมูลจากเว็บไซต์ นักสื่อสารแรงงาน ระบุถึงความเป็นมาของว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 54 หรือเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา ที่ประชุมใหญ่ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ครั้งที่ 100 ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้มีมติรับรองอนุสัญญาฉบับที่ 189 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับลูกจ้างทำงานบ้าน ซึ่งอนุสัญญาฉบับดังกล่าว จะช่วยให้สภาพการจ้างงานและชีวิตความเป็นอยู่ของลูกจ้างทำงานบ้าน หลายสิบล้านคนทั่วโลกดีขึ้น ในประเทศไทยเอง วันที่ 16 มิ.ย. จึงถือว่าเป็น “วันลูกจ้างทำงานบ้านสากล” ด้วย

เนื่องในวันสำคัญนี้ "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" พาไปสำรวจตลาด "บริการรับจ้างทำงานบ้านออนไลน์" ที่เป็นทางเลือกของแม่บ้านยุคใหม่ ที่มีโอกาสได้รับจ้างทำงานบ้านในสถานที่ใหม่ๆ ไม่ต้องทำงานแบบเดิมทุกๆ วัน

แม้นี่จะไม่ใช่เรื่องใหม่ในบ้านเรา แต่การรับจ้างทำงานบ้าน หรือรับจ้างทำความสะอาดในช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นคือมีแนวโน้มเติบโตได้ดีขึ้นในอนาคต เนื่องจากบริการเหล่านี้ สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนยุคใหม่ ที่เน้นความสะดวกรวดเร็ว เร่งรีบ เน้นการทำงานนอกบ้านมากกว่าการทำงานบ้าน

รวมไปถึง "ความขี้เกียจ" ที่กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจ ดังเช่น ข้อมูลจากวิทยาลัยการจัดการมหิดล (CMMU) ที่สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยทั้งชายและหญิง ต่างขี้เกียจทำงานบ้านหรือทำความสะอาดบ้านเป็นอันดับ 3 ของกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันเลยทีเดียว

ความต้องการใช้บริการทำงานบ้านที่สูง ทำให้ที่ผ่านมามีเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่น รับจ้างทำงานบ้านต่างๆ ออกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้ให้บริการแต่ละรายต่างชูจุดเด่นที่แตกต่างกัน รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ ที่ทำให้ตลาดรับจ้างทำความสะอาด มีการแข่งขันที่สมบูรณ์ ซึ่งทำให้ผู้รับบริการมีทางเลือกมากขึ้นตามไปด้วย เช่น

•  BeNeat 

บริการทำความสะอาดที่มีจุดขายมากกว่าเรื่องความสะอาด นั่นคือการรับรองเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าแม่บ้านที่มาให้บริการผ่านการตรวจสอบประวัติ ฝึกฝน และมีประกันคุ้มครอง บริษัทจะจัดหาแม่บ้านแทน เมื่อแม่บ้านเกิดเหตุไม่สามารถไปให้บริการได้ และลูกค้าสามารถเปลี่ยนเวลานัดหมาย และจองเวลาทำความสะอาดเพิ่มได้

•  Promaid Homecare 

บริการทำความสะอาดที่ระบุว่า ผู้ให้บริการทุกคน ผ่านการรับรองและอบรมโดย ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และผู้มีประสบการณ์ด้านงานบริการ มากกว่า 15 ปี ลูกค้าสามารถเลือกแม่บ้านประจำ เพียงกำหนดวันที่ชัดเจน หรือสามารถเลือกรับบริการกับแม่บ้านคนเดิม การันตีความเอาใจใส่ มีใจรักการบริการ พร้อมให้บริการ โดยมีระบบตรวจสอบประวัติที่ เชื่อถือได้ ผ่านระบบฝึกอบรม ก่อนปฏิบัติงานจริง

•  Msclaire 

•  คิวช่าง 

บริการทำความสะอาดรายวันอย่างหมดจด สำหรับบ้านพัก ที่อยู่อาศัยที่เหมาะสำหรับบ้านพัก ที่อยู่อาศัย พื้นที่ไม่เกิน 150 ตร.ม.  (ประมาณ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ) ที่เคลมว่าผู้ให้บริการผ่านการอบรมความรู้ด้านการทำงานตามมาตรฐาน ผ่านการตรวจประวัติอาชญากรรม และมีหัวหน้าผู้ควบคุมงานที่สามารถมั่นใจในความปลอดภัย และมีการดูแลหลังจากที่มีการทำความสะอาดไปเรียบร้อยแล้วด้วย

จะเห็นได้ว่าการ "รับจ้างทำงานบ้าน" หรือ "รับจ้างทำความสะอาด" ก็เหมือนกับธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งในมิติของการเจาะกลุ่มเป้าหมาย ที่ต้องพัฒนาบริการให้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค เช่น การให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น การสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น

ที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน นอกจากเรื่องของความสะอาดแล้ว ธุรกิจลักษณะนี้ยังต้องให้ความสำคัญเรื่อง "พนักงาน" ผู้ให้บริการ ที่ต้องมั่นใจว่าจะไม่สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของลูกค้า ไม่มีประวัติอาชญากรรม มีใจรักการบริการสามารถสร้างความประทับใจให้ลูกค้าจนอยากให้บริการซ้ำ

ท้ายที่สุดไม่ว่ายุคสมัยจะล่วงเลยไปแค่ไหน เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปอย่างไร แต่สิ่งที่ทำให้ธุรกิจเติบโตและได้รับการยอมรับจากลูกค้าคือ คุณภาพการให้บริการ และความจริงใจในการบริการ ที่ทำให้ "ผลตอบรับ" หรือ "รีวิว" จากลูกค้าออกมาในทางที่ดี ทำให้มีลูกค้าประทับใจ รู้สึกคุ้มค่า ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บริการในระยะยาว ซึ่งจะกลายเป็นความสำเร็จทางธุรกิจได้ในที่สุด