AOT อุ้มผู้ประกอบการเพิ่ม ‘ลด-เว้น’ ค่าเช่ายาวถึงสิ้นปี

AOT อุ้มผู้ประกอบการเพิ่ม ‘ลด-เว้น’ ค่าเช่ายาวถึงสิ้นปี

"ท่าอากาศยานไทย" ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบดำเนินงานของทอท.ทั้ง 6 แห่งที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวน 5 ข้อ โดยมีการ ‘ลด-เว้น’ ค่าเช่ายาวถึงสิ้นปี

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าตามหนังสือที่อ้างถึงบริษัทได้แจ้งแนวทางให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบดำเนินงานของทอท. ทั้ง 6 แห่งที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้ทราบความละเอียดแจ้งแล้วนั้น ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันพุธที่ 22 เมษายน 2563 ณ ห้องประชุมคณะกรรมการ ทอท. ชั้น 7 อาคารสำนักงานใหญ่ ทอท. ที่ประชุมมีมติอนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบดำเนินงานของ ทอท. เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการและสายการบินจากการลดลงของเที่ยวบินและผู้โดยสาร และสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินเกี่ยวกับค่าเช่าพื้นที่ ค่าบริการการใช้บริการในอาคาร และค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่รายเดือน

1.1 กรณีผู้ประกอบการและสายการบินมีหนังสือขอยกเลิกการประกอบกิจการชั่วคราวหรือท่าอากาศยานของ ทอท. ปิดให้บริการชั่วคราว ทอท.จะยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าพื้นที่ ค่าบริการการใช้บริการในอาคาร และค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่รายเดือนให้กับผู้ประกอบการและสายการบิน โดยมีกำหนดระยะเวลา 9 เดือนตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2563 หรือวันที่ผู้ประกอบการและสายการบินแจ้งขอกลับเข้ามาประกอบกิจการแล้วแต่วันใดจะถึงก่อน 1.2 กรณีผู้ประกอบการและสายการบินที่ยังประกอบกิจการ ณ ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบดำเนินงานของ ทอท.

1.2.1 ปรับลดค่าเช่าพื้นที่ในอัตรา 50% ให้แก่ผู้เช่าทุกราย โดยมีกำหนดระยะเวลา 9 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2563

1.2.2 เรียกเก็บค่าบริการการใช้บริการในอาคารในอัตรา 15% ของค่าเช่าพื้นที่ที่ปรับลดลง 50%

1.2.3 ให้ใช้อัตราค่าเช่าพื้นที่และค่าบริการการใช้บริการในอาคารตามบัญชีอัตราค่าภาระการใช้ท่าอากาศยาน ทรัพย์สิน บริการและความสะดวกต่างๆในกิจการของ ทอท. ฉบับปี 2559 สำหรับการคิดส่วนลดตามข้อ 1.2.1 และ 1.2.2

2. มาตรการช่วยเหลือสายการบินในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ

2.1 กรณีสายการบินขอหยุดให้บริการชั่วคราวหรือท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของทอท. ปิดให้บริการชั่วคราว ทอท.จะยกเว้นค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charges) มีกำหนดระยะเวลา 9 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2563 โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องได้รับอนุมัติการยกเว้นการเรียกเก็บอัตราดังกล่าวจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

2.2 ให้ส่วนลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing Charges) ในอัตรา 50%และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charges) สำหรับสายการบินที่ยังคงมีเส้นทางบินในอัตรา 50% สำหรับทุกเส้นทางการบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศเป็นระยะเวลา 9 เดือน ระหว่างวันที่ 1 เมษายน –31 ธันวาคม 2563

2.3 กรณีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) ให้มีสิทธิเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป

2.4 สายการบินที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการตลาดด้านการบิน (Incentive Scheme) หรือมาตรการช่วยเหลือของทอท.จะได้รับประโยชน์ในรายการสนับสนุนประเภทเดียวกันได้เพียงรายการเดียวที่สายการบินได้รับประโยชน์สูงสุด

3. ให้สิทธิ์เลื่อนการชำระค่าเช่าพื้นที่ค่าบริการการใช้บริการในอาคาร ค่าบริการสนามบิน(Landing and Parking Charges) และค่าเครื่องอำนวยความสะดวก (Aircraft Service Charges) ให้กับผู้ประกอบการและสายการบินที่ร้องขอจำนวน 9 งวด ตั้งแต่งวดเดือนเมษายน -ธันวาคม 2563 โดยในแต่ละงวดให้ขยายระยะเวลาการชำระออกไปเป็นระยะเวลา 6 เดือนจากวันครบกำหนดชำระตามระยะเวลาปกติ ทั้งนี้เฉพาะในกรณีที่ผู้ประกอบการและสายการบินร้องขอ

4.ขยายระยะเวลาการชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนในการประกอบกิจการของผู้ประกอบการตามมติคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 จากเดิมจำนวน 6 งวด (กุมภาพันธ์ -กรกฎาคม 2563) เป็น 11 งวด (กุมภาพันธ์ - ธันวาคม 2563) โดยให้ขยายระยะเวลาการชำระของแต่ละงวดออกไปเป็นระยะเวลา 6 เดือนจากวันครบกำหนดชำระตามระยะเวลาปกติ ทั้งนี้เฉพาะในกรณีที่ผู้ประกอบการและสายการบินร้องขอ

5. ปรับอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่และอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำจากการประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของทอท.ภายหลังสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการตามมติคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 (วันที่ 31 มีนาคม 2565) ดังนี้

5.1 สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเป็นลายลักษณ์อักษรจากทอท.หรือที่มีการลงนามในสัญญาและเข้าพื้นที่ประกอบกิจการก่อนหรือภายในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 หรือผู้ประกอบการรายเดิมที่มีการต่อสัญญากับทอท.ในระหว่างที่มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการฯมีผลอยู่ให้นำอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่และ/หรืออัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของปีก่อนหน้ามีมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการฯ (ปี 2562) มาใช้กำหนดเป็นอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่ และ/หรืออัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ

5.2 สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเป็นลายลักษณ์อักษรจากทอท.หรือที่มีการลงนามในสัญญาแล้ว แต่ยังไม่เข้าพื้นที่ประกอบกิจการก่อนหรือภายในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ให้นำอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่และ/หรืออัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ผู้ประกอบการยื่นข้อเสนอ
ในการประมูลหรือการเจรจาตกลงค่าตอบแทนมาใช้กำหนดเป็นอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่และ/หรืออัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ

5.3 ในการเรียกเก็บค่าตอบแทนจากผู้ประกอบการตามข้อ 5.1 และ 5.2 สำหรับปีถัดจากปีแรกของรอบสัญญาหลังจากสิ้นสุดมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ ประกอบการฯ ให้ฝ่ายบริหารทอท.พิจารณาเปรียบเทียบจำนวนผู้โดยสาร ณ ปีนั้นกับปีก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 (ปี 2562) หากน้อยกว่าให้ใช้อัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่และ/หรือค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของปีก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19(ปี 2562) ของแต่ละท่าอากาศยานมาใช้กำหนดเป็นอัตราเรียกเก็บ แต่หากปรากฏว่าจำนวนผู้โดยสาร ณ ปีนั้นมากกว่าปีก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 (ปี 2562) ให้ใช้อัตราการเติบโตจากจำนวนผู้โดยสาร ณ ปีนั้นเพื่อเป็นฐานในการคำนวณค่า MAGi เป็นต้นไป

6. มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินตามข้อ 1-5 ใช้กับผู้ประกอบการและสายการบินเฉพาะที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมีนิติสัมพันธ์กับทอท. อยู่ก่อนแล้วในวันที่คณะกรรมการทอท.มีมติ (วันที่ 22 เมษายน 2563)

7. ทอท.สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินตามข้อ 1 – 5 ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19