MONO - ขาย

MONO - ขาย

การจะพลิกมาเป็นกำไรเป็นเรื่องที่ท้าทาย

Event

แนวโน้มปี 2563 และปรับลดประมาณการปี 2563-64

Impact

เศรษฐกิจที่โตตํ่า และการแข่งขันที่รุนแรงจะกดดันรายได้ค่าโฆษณา

เราคาดว่ารายได้ค่าโฆษณาของ MONO (รายได้หลัก) จะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเนื่องจาก i) รายได้ค่าโฆษณาของ MONO ส่วนใหญ่มาจากช่อง MONO 29 ซึ่งเป็นช่อง TV ดิจิตอล โดยเราคาดว่าทั้งเจ้าของธุรกิจและเอเยนซี่สื่อจะลดงบโฆษณาลงในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว และความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ในระดับต่ำ และ ii) การแข่งขันในธุรกิจ TV ยังคงเข้มข้น และมีการใช้กลยุทธ์ตัดราคากันซึ่งจะเป็นตัวกดดันอัตราค่าโฆษณา

ผลกระทบสุทธิจากการระบาดของ COVID-19 จะเป็นลบกับผลการดำเนินงานของ MONO

เรามองว่าการระบาดของ COVID-19 จะส่งผลทั้งด้านลบและบวกกับผลประกอบการของ MONO โดยแง่บวกจะมาจากจำนวนผู้ชมรายการ TV ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการระบาด ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้ชมช่อง MONO 29 เพิ่มขึ้น และ MONOMAXX (ธุรกิจ TV ออนไลน์ของ MONO) ก็มีโอกาสจะได้สมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนแง่ลบจะมาจากรายได้ที่ลดลงจากสปอนเซอร์โฆษณา และจำนวนการจัด

กิจกรรม event ของ MONO ที่ลดลงในช่วงที่เกิดโรคระบาด

ปรับลดประมาณการเพื่อสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอในปี 2562 และปัจจัยลบในปี 2563 เราปรับลดประมาณการของ MONO ในปี 2563-64 ลงเพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการที่อ่อนแอในปี 2562 และแนวโน้มที่ไม่น่าสนใจในปี 2563 เนื่องจากมีปัจจัยลบหลายประการดังกล่าวข้างต้น โดยเราได้ปรับสมมติฐานสำคัญดังนี้ i) ปรับลดประมาณการรายได้ลงจากเดิม 21% - 24% เนื่องจากเราปรับลดรายได้จากค่าโฆษณาลง ii) ปรับเพิ่มประมาณการต้นทุนปี 2563 และ 2564 ขึ้นอีกประมาณ 1% และ iii) ปรับเพิ่มสัดส่วน SG&A/ยอดขายปี 2563-64 ประมาณ 6% ดังนั้น เราจึงคาดว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนจาก
ธุรกิจหลักหนักขึ้นเป็น 587 ล้านบาทในปี 2563 จากเดิมที่ 304 ล้านบาท และผลขาดทุนในปี 2564 จะเพิ่มขึ้นเป็น 557 ล้านบาท จากเดิมที่ 113 ล้านบาท

Valuation & Action

หลังจากปรับประมาณการใหม่แล้วทำให้เราได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 1.44 บาท (DCF ใช้ WACC ที่ 5.6%) ลดลงจากเดิมที่ 1.63 บาท เราปรับลดคำแนะนำจาก ถือ เป็น ขาย  เนื่องจาก i) คาดว่าจะยังคงมีผลขาดทุนต่อเนื่องในปี 2563-64 และ ii) แนวโน้มธุรกิจ TV (ธุรกิจหลัก) ดูไม่น่าสนใจในระยะยาว

Risks

รายได้ต่ำเกินคาด